นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีสัญญาณที่ดี หลังจากที่พักตัวในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่ง อีกทั้งมีการปรับลด (Downward Revision) ตัวเลขเดือนมิ.ย. ลงเหลือเพียง 14,000 ตำแหน่ง ประกอบกับดัชนี PMI ภาคการบริการจาก ISM เดือน ก.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 51.5
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สะท้อนความเปราะบาง โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน ส่งผลให้ตลาดกลับมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% สอดคล้องกับถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ที่เริ่มแสดงความกังวลต่อสัญญาณอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทั้ง “ลิซา คุก” ผู้ว่าการเฟด ที่กล่าวว่าการปรับลด (Downward Revision) ตัวเลขการจ้างงานสะท้อนถึงช่วงพลิกผันทางเศรษฐกิจ รวมไปถึง “แมรี ดาลี” ประธานเฟด ซานฟรานซิสโก และ “นีล แคชคารี” ประธานเฟด มินนิแอโพลิส ที่กล่าวสอดคล้องกันว่า การเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจเป็นเรื่องที่เหมาะสม
อีกทั้งแบบสำรวจของ Reuters ซึ่งจัดทำในช่วงวันที่ 1-5 ส.ค. ที่ผ่านมา บ่งชี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงต่อเนื่องในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟด โดยมีสาเหตุมาจาก “เจอโรม พาวเวล” ถูกกดดันให้ออกจากตำแหน่งประธานเฟด ในขณะที่ “เอเดรียนา คูเกลอร์” ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเฟด ซึ่งมีผลวันที่ 8 ส.ค.
นอกจากนี้ ยังมีความวิตกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจ หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” สั่งปลด “อริกา แมคเอนทาร์เฟอร์” ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS)
ทั้งนี้แม้ปัจจัยทั้งหมดจะค่อนข้างเอื้อให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในระยะนั้นยังอาจถูกแรงขายทำกำไรสลับออกมาได้บ้าง จากประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่บรรเทาลง หลังจากการเจรจาระหว่างทูตสหรัฐฯ กับรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครนนั้น มีความคืบหน้าในเชิงบวก และล่าสุด “โดนัลด์ ทรัมป์” เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่จะพบปะกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย และ “โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน เร็ว ๆ นี้
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของทองคำในระยะสั้น วายแอลจี คาดว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวต้าน 3,405-3,420 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ และกรอบแนวรับ 3,358-3,329 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ 51,000-52,350 บาท/บาททองคำ (ที่ระดับค่าเงินบาท 32.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)