เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐไตรมาส 3 แข็งสุดโต่ง ผลตอบแทนดีที่สุดในเอเชีย ต่างชาติชี้เป้าปลายปี 68 นี้ จ่อดีดแข็งกลับแตะ 31 บาท แข็งสุดๆในรอบ 4 ปีกว่า

เงินบาท เทียบดอลลาร์สหรัฐไตรมาส 3 แข็งสุดโต่ง ผลตอบแทนดีที่สุดในเอเชีย ต่างชาติชี้เป้าปลายปี 68 นี้ จ่อดีดแข็งกลับแตะ 31 บาท แข็งสุดๆในรอบ 4 ปีกว่า

ตลาดซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศ รายงานค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดต่างประเทศ พบว่า ในวันนี้ เคลื่อนไหวที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เมื่อวานนี้ 11 สิงหาคม 2025 เคลื่อนไหวที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่ ไตรมาสที่ 3 ในปัจจุบัน ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐทำสถิติแข็งค่าดีที่สุดในเอเชียส่งผล ส่งผลให้เป็นสกุลเงินที่ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย สาเหตุจากประเทศไทยถูกจัดเก็บอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ที่ระดับ 19% ซึ่งอยู่ในระดับที่เสมอตัวกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอาเซียน ส่งผลต่อด้านจิตวิทยาให้กับนักลงทุนที่ประเมินว่าการส่งออกของไทยจะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต ปัจจัยการเมืองภายในประเทศผ่อนคลายลงในระดับหนึ่งรวมถึงนักลงทุนประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนจากต่างประเทศอาจมีมากขึ้นเพื่อเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำมาเป็นเวลานานในก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา เงินลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยสุทธิราว 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20,480 ล้านบาท ซึ่งตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ที่เงินทุนต่างชาติไหลออกสุทธิจากตลาดหุ้นไทยถึง 3 ไตรมาสติดต่อกัน หรือ 9 เดือนต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นไทย SET Index ฟื้นตัวและปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่า 18% เมื่อเทียบกับค่าดัชนีดังกล่าวที่ตกต่ำสุดในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สาเหตุจากการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากต่างประเทศกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยรอบใหม่ มีผลทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีหุ้น SET Index ในไตรมาสที่ 3 กลับฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มดัชนีหุ้นที่มีผลงานอันดับต้น ๆ ของโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวทำสถิติตกต่ำเลวร้ายและย่ำแย่รั้งท้ายที่สุดของโลก

ธนาคารมาลายัน แบงก์กิ้ง บีเอชดี ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำจากประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่า คาดการณ์ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี 2025 นี้จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.50 บาท สอดคล้องกับธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกา (BOA) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าสูงมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งไปแตะที่ระดับ 31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปลายปี 2025 นี้ ส่งผลให้กลายเป็นค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 4 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคม 2021 เป็นต้นมา

นายอลัน หลู นักกลยุทธ์ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารเมย์แบงก์ สิงคโปร์ เปิดเผยว่า มีมุมมองด้านบวกกับค่าเงินบาทในช่วงระยะกลางจากนี้ไป คาดการณ์ว่าภาวะตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรในประเทศไทยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงความชัดเจนของอัตราภาษีต่างตอบแทนที่สหรัฐอเมริกาเก็บกับประเทศไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles