รัฐบาลเวียดนาม เปิดเผยว่าเตรียมเงินลงทุน 1.28 ล้านล้านด่อง หรือ 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของขนาดเศรษฐกิจเวียดนามในปัจจุบัน เพื่อลงทุนในโครงการขนาดยักษ์ หรือเมกาโปรเจ็คท์ด้านโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมตั้งแต่ถนน เส้นทางรถไฟ ระบบรถไฟ สนามบินใหม่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และอสังหาริมทรัพย์ โดยมีโครงการที่จะลงทุนด้วยงบประมาณดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 250 โครงการ โครงการก่อสร้างทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจเวียดนามให้เติบโตแตะระดับมากกว่า 8% ในปี 2025 นี้ และขยายตัวด้วยตัวเลขจีดีพีให้สูงกว่า 2 หลักในปี 2026
โครงการเมกาโปรเจ็คทั้ง 250 โครงการ ประกอบด้วย 161 โครงการกำลังจะเริ่มก่อสร้าง และที่เหลือ 89 โครงการกำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ได้แก่ สนามบิน ทางรถไฟ ถนน และอื่นๆ 59 แห่ง โครงการอุตสาหกรรม 57 แห่ง โครงการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค 36 แห่ง โครงการบ้านจัดสรร 22 แห่ง และโครงการสาธารณูปโภคและเมือง 44 แห่ง
งบประมาณในการลงทุนราว 10% ของตัวเลขจีดีพีประเทศเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วยเงินลงทุน 473,600 ล้านดอง หรือราว 5.8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 37% ของเงินทุนทั้งหมด และกลุ่มที่ 2 อีกราว 63% หรือ 806,400 ล้านด่อง หรือราว 1 ล้านล้านบาท จะมาจากแหล่งเงินทุนอื่นๆ
เมื่อปลายปี 2024 ผ่านมา พล.อ.โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เวียดนาม ประกาศการปฏิรูปเศรษฐกิจเวียดนามครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษของเวียดนาม ด้วยการกำหนดเป้าหมายให้เวียดนามขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 หรือในอีก 20 ปีจากนี้ไป นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายให้เวียดนามเป็นหนุ่งในกลุ่มเสือเศรษฐกิจของเอเชียตามเกาหลีใต้ และไต้หวัน
ตัวชี้วัดด้านรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีของเวียดนาม พบว่า พุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน ในปี 1990 หรือเมื่อ 35 ปีผ่านมา รายได้ดังกล่าวเพิ่มจาก 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ มาเป็นระดับราว 16,385 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน (เฉพาะเมืองใหญ่ เช่น ฮานอย) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลจากเวียดนามก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก ซึ่งช่วยให้ชาวเวียดนามหลายล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน
สำหรับโครงการที่น่าสนใจในแผนงบลงทุน 1.28 ล้านล้านด่อง หรือ 10% ของจีดีพีประเทศในครั้งนี้ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติมีชื่อว่าเวียตเทล Viettel จะมุ่งเน้นการวิจัยด้านอุปกรณ์ไฮเทค โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ดาต้า โครงการนี้มีมูลค่า 10 ล้านล้านดอง หรือราว 12,000 ล้านบาท
โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง เช่น สะพาน Rach Mieu 2 มูลค่า 6.8 ล้านล้านดอง ที่เชื่อมจังหวัดด่งท้าป และจังหวัดหวิงลอง ทางตอนใต้ เตรียมเปิดให้สัญจรเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม 4 เดือน โรงพยาบาลโรคมะเร็งขนาด 1,000 เตียง ในจังหวัดเหงะอานอยู่ทางตอนกลางของประเทศ โครงการพลังงานลมมูลค่า 1.57 ล้านล้านดอง โครงการศูนย์การค้าและสวนสนุกในเมืองดานังรวมมูลค่า 79.8 ล้านล้านดอง
บริษัททั้งในประเทศ และบริษัทต่างชาติจะมีส่วนร่วมในโครงการลงทุนขนาดใหญ่เหล่านี้ด้วย เช่น ซูมิโตโม คอร์ป ซึ่งบริษัทการค้ายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น มีสัญญาก่อสร้างมูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการเมืองอัจฉริยะฮานอยเหนือ หรือ North Hanoi Smart City โดยร่วมมือกับบีอาร์จี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของเวียดนาม
ด้านโครงการสนามบินแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม คือ สนามบินนานาชาติลองแถ่ง (Long Thanh) ตั้งอยู่ในจังหวัดด่งนาย ทางภาคใต้ของประเทศเวียดนาม จะเริ่มเปิดให้บริการในธันวาคม 2025 นี้ สามารถลดความแออัดที่สนามบินนานาชาติตันเซินเญิ้ต ในนครโฮจิมินห์ โครงการดังกล่าวร่นระยะเวลาการก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมถึง 1 ปี รัฐบาลยังมีแผนจะเปิดให้บริการทางหลวงเส้นใหม่ระยะทางยาวถึง 3,000 กิโลเมตร ภายในปลายปี 2025 ด้วย