นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากรมฯได้ วิเคราะห์ธุรกิจที่น่าสนใจประจำเดือนกรกฎาคม 2568 พบว่า ‘ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ’ (Vending Machine) เป็นธุรกิจดาวรุ่งที่เติบโตสอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย การเลือกซื้อและเข้าถึงสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีทางเลือกชำระเงินที่หลากหลาย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในธุรกิจนี้กว่า 760 ราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 5,962 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กถึง 95% ขณะที่รายได้รวมของธุรกิจในปี 2567 อยู่ที่ 10,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 34.74% จากปี 2566 และยังดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศรวมกว่า 619 ล้านบาท โดย 3 อันดับที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดคือ ฮ่องกง ลงทุน 455 ล้านบาท หมู่เกาะเคย์แมน ลงทุน 76 ล้านบาท และออสเตรีย ลงทุน 27 ล้านบาท
ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นในอนาคตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศเริ่มมองเห็นช่องทางการตลาด และกระจายสินค้าผ่านช่องทางตู้จำหน่ายฯ มากขึ้น การเติบโตของธุรกิจนี้สะท้อนให้เห็นว่าการมองเห็นประโยชน์จาก ‘พื้นที่เล็กๆ’ อย่างมุมห้างสรรพสินค้า สำนักงาน คอนโดมิเนียม หรือสถานีรถไฟฟ้า ก็สามารถเปลี่ยนเป็นช่องทางสร้างรายได้มหาศาล โดยที่ไม่ต้องลงทุนจำนวนมากไม่ต้องใช้พนักงาน และสามารถขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หากผู้ประกอบธุรกิจสามารถใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อเครื่องเอง การเช่าเครื่อง หรือแฟรนไชส์ พร้อมธุรกิจนี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง AI และระบบชำระเงินดิจิทัลมาช่วยให้บริการที่สะดวกและดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ จึงไม่เพียงเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุน แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของ การค้าปลีกยุคดิจิทัล ที่สามารถพลิกพื้นที่เล็ก ๆ ให้กลายเป็นโอกาสใหญ่ได้จริง” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย