เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางชัดเจน

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 32.27 บาทต่อดอลลาร์  แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.31 บาทต่อดอลลาร์ 

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหว้ไร้ทิศทางที่ชัดเจน แถวโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.27-32.35 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของเงินดอลลาร์ ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสาน อาทิ ยอดการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP เดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 5.4 หมื่นราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ราว 7 หมื่นราย ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 2.37 แสนราย สูงกว่าคาดราว 7 พันราย

ขณะที่ ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการในเดือนสิงหาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาด 51 จุด สะท้อนภาวะการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการของสหรัฐฯ 

อย่างไรก็ดี รายงานยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ที่ออกมาน่าผิดหวัง ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ที่จะรายงานในวันศุกร์ 5 กันยายน นี้ อาจสะท้อนภาพการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ (ตลาดคาดยอดการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 7.5 หมื่นราย) กอปรกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด อย่าง John Williams (NY Fed) ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มตลาดแรงงานมากขึ้น 

ขณะเดียวกันก็มองว่า แรงกดดันเงินเฟ้อจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ อาจไม่ได้รุนแรงอย่างที่เคยกังวล ทำให้เฟดสามารถดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นได้ โดย John Williams ระบุว่า เฟดก็สามารถทยอยลดดอกเบี้ยสู่ระดับ Neutral Rate แถวโซน 3.00% ซึ่งถ้อยแถลงของ John Williams ก็สอดคล้องกับบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนในช่วงนี้ ที่แสดงความกังวลต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐฯ และสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นของเฟด โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสานดังกล่าว 

แนวโน้มค่าเงินบาท มองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.00-32.55 บาทต่อดอลลาร์ โดยคงมุมมองเดิมว่า เงินบาท (USDTHB) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยอาจยังติดโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับก็ไม่ควรจะต่ำกว่าโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปมากนัก หลังผู้เล่นในตลาดได้รับรู้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปพอสมควรแล้ว 

เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด อย่างมีนัยสำคัญ อีกครั้ง หลังทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินได้พอสมควร 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ นั้น ผู้เล่นในตลาดควรจับตาแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย ซึ่งคาดว่าจะมีการโหวตลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในวันนี้ โดยความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองไทย อาจส่งผลบวกต่อบรรยากาศในตลาดการเงินไทย และอาจพอช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้บ้าง แต่คาดว่า อาจไม่มากนัก เนื่องจากสุดท้ายผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles