สภาอุตสาหกรรมฯ ชี้ไทยส่งออกทองไปกัมพูชาพุ่ง 10 เท่า ปี 66 กว่า 1 หมื่นล้านพุ่งกว่า 1 แสนล้านในปี 67 แค่ 6 เดือนแรกปี 68 ส่งทองพุ่งอีก 20% เกือบ 7 หมื่นล้าน สภาอุตฯ ชงคุยกับนายกฯ อนุทิน จันทร์ 15 นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ ชี้ไทย ส่งออก ทอง ไป กัมพูชา พุ่ง 10 เท่า ปี 66 กว่า 1 หมื่นล้านพุ่งกว่า 1 แสนล้านในปี 67 แค่ 6 เดือนแรกปี 68 ส่งทองพุ่งอีก 20% เกือบ 7 หมื่นล้าน สภาอุตฯ ชงคุยกับนายกฯ อนุทิน จันทร์ 15 นี้

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 15 กันยายนนี้ จะมีการประชุมหารือระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยหนึ่งในปัญหาที่นำเสนอ และฝากให้นายกฯเไปติดตาม คือ ค่าเงินบาทแข็ง และการส่งออกทองคำของไทยไปกัมพูชา มีความเกี่ยวข้องทำให้ค่าบาทแข็งหรือไม่

“เราไม่ได้จับผิดเรื่องทองคำไปกัมพูชา แค่แสดงความกังวลว่าเกี่ยวข้องทำให้ค่าบาทแข็งหรือไม่”

ตัวเลขการส่งออกทองคำจากประเทศไทยไปประเทศกัมพูชาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลพบว่าปี 2566 ส่งออกทองคำไปกัมพูชามีมูลค่าประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว 10 เท่า ส่งผลมูลค่าส่งออกทองคำไปกัมพูชาเป็นกว่า 100,000 ล้านบาทในปี 2567 และในปี 2568 นี้ ผ่านมาครอบ 6 เดือนแรก ปรากฏว่าการส่งออกทองคำไปกัมพูชาแตะเกือบ 70,000 ล้านบาท หรือเพิ่ม 19-20% เทียบช่วงเดียวกับปีก่อน

กระทรวงพาณิชย์ กรมศุลกากร และผู้ค้าทองคำ จะออกมาชี้แจง หรือสำแดงข้อมูล และยืนยันว่าถูกต้อง หรือไม่ผิดปกติ แต่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอยากให้ลงลึกตรวจเช็ครายละเอียดของการซื้อขาย รวมถึงตรวจสอบความต้องการเงินบาทที่สูงผิดธรรมชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปดูว่าจะควบคุมดูแลอย่างไร ค่าบาทแข็งค่ามากส่งผลกระทบเกี่ยวข้องไปทุกด้าน ทั้งมูลค่าการส่งออก ความสามารถการแข่งขันในตลาดโลกโดยรวม และภาคท่องเที่ยว เป็นต้น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles