นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้เปิดที่ 31.67 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.71 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ยังคงเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 31.64-31.76 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดมีการปรับสถานะถือครองก่อนที่จะรับรู้ผลการประชุม FOMC ของเฟด
แม้ว่า ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม จะขยายตัวต่อเนื่อง +0.6% จากเดือนก่อนหน้า ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ก็ตาม ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือนสิงหาคม ก็กลับมาขยายตัวราว +0.1% จากเดือนก่อนหน้า ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวต่อเนื่อง โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดนั้น ไม่ได้ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงประเมินว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ราว 6 ครั้ง จนถึงสิ้นปีหน้า
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังมองว่า เฟดอาจเร่งลดดอกเบี้ย 50bps ในการประชุม FOMC เดือนกันยายนนี้ ได้
ในส่วนของ ราคาทองคำ (XAUUSD) นั้น แม้จะปรับตัวขึ้น ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เหนือโซน 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ก็เผชิญแรงขายทำกำไร ชะลอการปรับตัวขึ้น อีกทั้งผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการประชุม FOMC เดือนกันยายน ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองทองคำอย่างชัดเจน
แนวโน้มค่าเงินบาท มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.50-32.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ในช่วงก่อนรับรู้ ผลการประชุม FOMC เดือนกันยายน ของเฟด แม้ว่าในช่วงวันก่อนหน้า เงินบาทจะมีจังหวะแข็งค่าหลุดกรอบล่างที่เราประเมินไว้บ้าง แต่ก็ยังแกว่งตัวเหนือโซนแนวรับ 31.65 บาทต่อดอลลาร์