สนค. เผยดัชนีราคาผู้ผลิตของไทยก.ย. 68 หดตัว จากซัพพลายส่วนเกินพุ่ง เงินบาทแข็ง กดดัน ไตรมาส 4 แนวโน้มชะลอต่อ 

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาผู้ผลิตของไทย เดือนกันยายน 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2567 หดตัวจากราคาสินค้าในทุกหมวด โดยราคาสินค้าหมวดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จากอุปทานส่วนเกินในประเทศสูงตามปริมาณผลผลิตที่ออกมาก หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีทิศทางเคลื่อนไหวตามอุปสงค์ของตลาดโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โดยดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกันยายน 2568 เท่ากับ 108.2 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2567 ลดลงร้อยละ 2.4 (YoY) เป็นผลจากการลดลงของราคาสินค้า หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 13.4 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับการส่งออกในปีนี้หดตัวค่อนข้างมาก อ้อย จากปริมาณผลผลิตและพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ประเภทอื่นปรับตัวลดลง หัวมันสำปะหลังสด จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามความต้องการที่ลดลงในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ยางพารา จากราคาส่งออกที่ลดลงตามการชะลอคำสั่งซื้อของตลาดปลายทาง พืชผัก (มะนาว ต้นหอม กระเทียม) จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เหมาะสม ผลไม้ (ทุเรียน ลำไย) จากราคาส่งออกในปีนี้ที่หดตัวค่อนข้างมากตามคุณภาพผลผลิตที่ลดลง ไข่ไก่ จากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เหมาะสม และ โคมีชีวิต จากความต้องการบริโภคที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง

สำหรับสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย ผลปาล์มสด จากปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่มีน้อย ในขณะที่ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสัตว์น้ำจากการประมง (ปลากะพง ปลาทู) จากความต้องการบริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 12.0 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก สินแร่โลหะ (แร่เหล็ก สังกะสี) จากอุปสงค์ที่ลดลงของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการทำเหมือง (หินก่อสร้าง) จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ และหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 0.5 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยางมะตอย น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก

กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ สารพอลิเมอร์และสารเคมีอินทรีย์อื่น ๆ เม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น ปรับราคาลดลงตามน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบหลัก กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร ข้าวสารเจ้า ข้าวนึ่ง มันเส้น น้ำตาลทราย มีราคาลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัว ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม Integrated Circuit (IC) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์รับข้อมูล/แสดงผล ปรับตามอุปสงค์ที่ลดลง อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า และการแข่งขันของตลาดโลก ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ และเครื่องประดับ (เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับพลอย) จากอุปสงค์ของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น

ส่วนแนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิตไตรมาสที่ 4 ปี 2568 มีแนวโน้มหดตัวในอัตราชะลอลงจนถึงช่วงกลางของไตรมาส  ซึ่งการที่ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกันยายน 2568 ปรับตัวลดลงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เกิดจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ อุปทานของผลผลิตทางการเกษตรส่วนเกินในประเทศสูง การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในตลาดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอตามสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ควรเพิ่มการบริโภคภายในประเทศผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และสนับสนุนสินเชื่อภาคธุรกิจแก่ผู้ผลิตในประเทศ เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถแข่งขัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles