กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมลงนามในบันทึกข้อตกลงการออกรางวัลสลากออมทรัพย์ กอช. หรือ หวยเกษียณ โดยมีนางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. และ พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ เป็นผู้ลงนาม โดยมีนายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ กอช. เป็นประธานในพิธี และจะมีการสาธิตการออกรางวัลด้วย
โดย ประธาน กอช. ยืนยันว่า กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้าหวยเกษียณ ซึ่งตามเป้าหมายจะเปิดจำหน่ายในเดือน ธันวาคมนี้ โดยวันนี้การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กอช. ได้ผ่านรัฐสภาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนนายกรัฐมนตรีนำทูลเกล้าฯ เพื่อให้ พ.ร.บ.กอช. มีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกัน กอช.ได้เสนอกระทรวงการคลังออกกฎระเบียบ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการทำงานควบคู่กัน เพื่อให้เปิดจำหน่ายหวยเกษียณได้ตามแผนงาน ส่วนการซื้อหวยเกษียณจะผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ทั้งทรูมันนี่ เอไอเอส และชอปปี้เพย์ เป็นต้น
สำหรับรูปแบบการจำหน่ายสลาก และการออกรางวัลยังคงเดิม คือ เป็นสลากขูดแบบดิจิทัลใบละ 50 บาท เพื่อขายให้ประชาชนที่มีสัญชาติไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน โดยสามารถซื้อหวยเกษียณได้ทุกวัน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. โดยผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันทีผ่านพร้อมเพย์ สามารถนำออกมาใช้ได้เลย โดยที่เงินค่าซื้อสลากทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชีส่วนตัวของตนเอง แม้จะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม
รางวัลหวยเกษียณได้แก่รางวัลที่ 1 (เลข 6 หลัก) เงินรางวัล 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล รางวัลที่ 2 (เลขหน้า 3 ตัว และเลขท้าย 3 ตัว) รางวัลละ 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล รางวัลพิเศษ (แจ็กพอต) 1 รางวัล (ถ้ามี) หากงวดใดที่รางวัลออกไม่หมด รางวัลนั้นจะถูกทบยอดเป็นรางวัลแจ็กพอตในงวดถัดไปทั้งหมดทันที
ปัจจุบัน กอช.มีสมาชิกเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรกร ตามมาด้วยกลุ่มอาชีพอิสระ ส่งผลให้ 9 เดือนปี 68 กอช. มีสมาชิกเพิ่ม 100,000 ราย เป็น 2.8 ล้านคน เมื่อถึงสิ้นปีอาจขยับเป็น 3 ล้านคนได้ ส่วนยอดออมสะสมของสมาชิกเพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท เป็น 16,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังมีกลุ่มอาชีพอิสระที่ไม่ได้เป็นสมาชิกประกันสังคมอยู่อีกกว่า 8 ล้านคน ซึ่ง กอช.พยายามหาทางเพิ่มสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกมาก
