ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 46,694 จุด -63 จุด หรือ -0.14% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,740 จุด +24 จุด หรือ +0.36% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 22,941 จุด +161 จุด หรือ +0.71% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ต่อเนื่อง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเดือนกันยายน +1.7% และในไตรมาส 3 พุ่ง 5% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดเดือนกันยายน +3.1% และในไตรมาส 3 พุ่ง 7.4% และดัชนีหุ้นนาสแดคปิดเดือนกันยายน +5.3% และในไตรมาส 3 พุ่ง 10.9%
สาเหตุจากนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในธุรกิจเกี่ยวกับไมโครชิพ และปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอในตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐ หลังจากแอปพลิเคชั่นชื่อดังระดับโลก แชทจีพีทีตัดสินใจเข้าถือหุ้น 10% ในบริษัทเอเอ็มดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตไมโครชิพใช้งานสำหรับเอไอ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเอเอ็มดีพุ่งทะยานขึ้นถึง 24% นอกจากนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกามีความคึกคักหลังจากเกิดดิวควบรวมกิจการของสถาบันการเงินและธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา
