ฟิทช์ เรตติ้งส์ (Fitch Ratings) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือเรตติ้งในการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในภาวะการฟื้นตัวหลังจากเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาด โควิด-19 ที่อ่อนแอมากเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเพื่อนบ้าน ที่สำคัญแนวโน้มของสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2025 และปี 2026 ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ ซึ่งตกอยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน สถานการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นปัจจัยที่กดดันธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
ภาวะหนี้ครัวเรือนไทยที่อยู่ในระดับสูงส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถชำระหนี้คืนให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ในที่สุดส่งผลกระทบต่อผลประกอบการโดยเฉพาะรายได้จากดอกเบี้ย ซึ่งเกิดจากการปล่อยสินเชื่อ ที่ถือเป็นรายได้หลักสำคัญของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มสูงที่จะตกต่ำลง
รายได้ของธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ 4 อันดับแรกในประเทศไทยได้รับการคาดการณ์ว่า ตกต่ำลงอย่างมากในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ซึ่งจะทยอยประกาศผลประกอบการเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ SCBX ได้รับการประเมินว่ารายได้ ดอกเบี้ยสุทธิตกต่ำมากถึง -9.5% ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่สองที่มีมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหดตัวลงถึง -6.7%
ธนาคารกรุงเทพ ได้รับการประเมินว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 จะตกต่ำมากถึง -8.5% ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหดตัวลงถึง -4.3% หรือมีรายได้ดังกล่าวทรุดต่ำลงถึงเท่าตัว
ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank ถูกคาดการณ์ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 จะตกต่ำมากถึง -9.5% ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหดตัวลงถึง -6.7%
ธนาคารกรุงไทย ถูกคาดการณ์ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 จะตกต่ำมากถึง -12% ซึ่งจะเป็นการลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิหดตัวลงถึง -11% หรือมีรายได้ดังกล่าวทรุดต่ำลงถึงเท่าตัว ส่งผลให้ธนาคารกรุงไทยอาจกลายเป็นธนาคารที่มีรายได้สุทธิดอกเบี้ยสุดดำดิ่งลงมากที่สุดใน 4 ธนาคารขนาดใหญ่ 4 อันดับแรกของประเทศไทย
