ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำและมีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำตลาดโลกในสิ้นปี 2025 นี้ จากเดิมที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 900 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +25.71% มาอยู่ที่ระดับ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจาก ความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน ความขัดแย้งในปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ยังคงอยู่ในรอบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าราคาทองคำตลาดโลกจะขึ้นไปทำระดับสูงสุดแต่ 4,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ภายในเดือนมิถุนายนปี 2026 หลังจากนั้นราคาทองคำจะปรับตัวลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อพ้นช่วงกลางปี 2026 สาเหตุจากธนาคารกลางสหรัฐสหรัฐอเมริกาหรือแฟลชจะได้ข้อสรุปรอบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของปี 2026 และเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2026 นับตั้งแต่ช่วงกลางปีปีหน้าเป็นต้นไปจะมีความชัดเจนทั้งในแง่ภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรการภาษีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) เปิดเผยต่อไปว่าหลังจากที่ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานนับตั้งแต่ต้นปี 2025 มาถึงขนาดนี้ ที่มีราคาเคลื่อนไหวระดับ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือมากกว่า 61% ไปแล้ว ปรากฏว่าแรงส่งที่จะผลักดันให้ราคาทองคำตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยังคงอยู่ต่อไป และจนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณที่แรงส่งราคาทองคำจะสะดุดหยุดลง ยังไม่เห็นจุดเปลี่ยนของราคาทองคำในในช่วงระยะสั้น ที่อาจจะปรับเปลี่ยนแรงส่งหรือแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำ ทั้ง ๆ ที่ภาวะการปรับฐานของราคาทองคำตลาดโลกมีความเป็นไปได้อย่างค่อนข้างมากก็ตาม
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) เปิดเผยว่า ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำตลาดโลกในช่วงจากนี้ไปอีก 6 เดือนจะมีราคาขึ้นไปที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +9.37% เมื่อเทียบกับราคาคาดการณ์เดิมที่ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ ยังมองว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2025 ราคาทองคำโลกจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 3,600 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) เปิดเผยต่อไปว่า สาเหตุจากมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนกับภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งค่อนข้างเอียงไปทางลึกมากขึ้น ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในโลก แนวโน้มที่จะเกิดการสะดุดหยุดลงของเครือข่ายหรือห่วงโซ่การผลิตสินค้า ความน่ากังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอย่างมาก และทิศทางหรือแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกที่จะปรับลดลงในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ในแง่ที่ราคาทองคำในตลาดโลกจะเกิดภาวะเทขาย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับฐานลงนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้ หากธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดตัดสินใจที่จะตรึงมากกว่าที่จะลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น สถานการณ์ดังกล่าวจะสวนทางกับมุมมองของตลาดที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ถึงอย่างมากสุด 4 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี 2025 นี้
นอกจากนี้ หากความขัดแย้งในเรื่องของปัญหาการค้าและภาษีผ่อนคลายลงระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงการหาทางออกได้อย่างรวดเร็วกับบรรดาประเทศคู่ค้าที่ได้รับการเก็บขึ้นภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงกับสหรัฐอเมริกา และโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะไม่เกิดภาวะทดถอยอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าและภาษี
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2025 ผ่านมา ธนาคารเอเอ็นแซด (ANZ) เปิดเผยว่า ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำตลาดโลกในช่วงจากนี้ไปอีก 3 เดือน จะมีราคาเคลื่อนไหวที่ระดับ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และในช่วงเวลา 6 เดือนจะอยู่ที่ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
