สมาคมค้าทองคำ รายงานเปิดราคาทองคำในประเทศไทย วันนี้ 18 ตุลาคม 2025 ประกาศเวลา 9.14 น. ปรับราคา -1,200 บาท ทำสถิติราคาเปิดตลาดทองคำในไทยที่ดำดิ่งมากที่สุดในรอบปีนี้ ทองคำแท่งรับซื้อ 65,900 บาท ราคาขายออก 66,000 บาท ด้านทองรูปพรรณรับซื้อ 64,581.60 บาท ราคาขายออก 66,800 บาท ส่งผลเป็นทั้งราคาทองคำต่ำสุดในรอบ 1 วันผ่านมา ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำไทยปิดขึ้น +3,900 บาท/บาททองคำ หรือ +6.3%
สำหรับสถิติราคาทองแท่ง และทองรูปพรรณปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ใหม่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2025 อยู่ที่ระดับ 67,200 และ 68,000 บาท ส่วนราคาระหว่างวันสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในวันเดียวกันที่ระดับ 67,400 และ 68,200 บาท นั่นหมายถึงราคาทองคำไทยตั้งแต่ต้นปี 2025 มีราคาส่วนต่างทะยานสูงสุดถึง 25,000 บาท หรือ +58.96%
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา ทองคำไทยมีการเปิดราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ทำสถิติเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ภายในไม่ถึง 3 สัปดาห์ นับเป็นครั้งแรกของตลาดทองคำไทย วันที่ 1 เปิด 1,000 บาท ว้นที่ 14 เปิด 1,150 บาท และวันนี้ 17 เปิด 1,600 บาท ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำในไทยปิดสุทธิเพิ่มขึ้น +2,650 บาท หรือ +4.5%
นับตั้งแต่ต้นปี 2025 นี้ มาถึงราคาเปิดตลาดวันที่ 18 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำในไทยเพิ่มขึ้น +23,600 บาท หรือทะยานถึง +55.66% เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 เป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำในไทยในปี 2025 พุ่งทะยานแตะหลัก 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลเป็นครั้งแรกที่ส่วนต่างราคาทองคำจากต้นปีจนถึงปัจจุบันแตะหลัก 19,000 บาทต่อบาททองคำ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ผ่านมานับเป็นครั้งแรกที่ผลตอบแทนของราคาทองคำในประเทศไทยขึ้นแต่ละ 40%
ด้านราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ที่ประเทศสิงคโปร์ เปิดที่ระดับ 4,249.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 18 ตุลาคม 2025 ส่งผลราคาทองคำดังกล่าวทะยานถึง +1,639.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +62.82% ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2025 เป็นวันแรกที่ส่งผลให้ราคาทองคำในเอเชียพุ่งทะยานจากต้นปีนี้มาถึงปัจจุบันแตะ 50% เป็นครั้งแรกอีกด้วย ท่ามกลางค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาดที่ระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 100% เป็นสิ่งที่ไม่อยู่นาน อย่างไรก็ตาม จีนเป็นฝ่ายที่กดดันให้สหรัฐอเมริกาต้องดำเนินมาตรการดังกล่าว ส่วนตัวแล้วคิดว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่มีปัญหาอะไร กับจีน แต่ทั้งสองประเทศจะต้องมีการเจรจาข้อตกลงที่เป็นธรรม ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ในวันนี้ 17 ตุลาคม 2025 จะมีการประชุมทางไกลกับรองนายกรัฐมนตรีจีนนายเห่อ ลีเฟิง เพื่อที่จะพูดคุยข้อตกลงการค้าต่อไป
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ 99% ที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ และมีโอกาส 81% ที่จะลดดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.25% ในเดือนธันวาคมนี้ นั่นหมายถึงคาดว่าจะปรับลด 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของครึ่งปีหลังนี้