สดๆ ร้อนๆ กับตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาสที่ผ่านมา ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าเหลือเพียง 4.8% ที่แม้ดูๆ แล้วก็โตดีนะ อย่างน้อยก็ดีกว่าไทย แต่กลับกันภาพรวมหลายๆ อย่างในประเทศเองค่อนข้างแย่ คนรวยระดับบนก็แห่ขนเงินออกไปลงทุนนอกประเทศ อัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ก็สูงถึง 14% จนเกิด 3 เทรนด์แปลก สะท้อนค่านิยมที่ต้องการการยอมรับจากสังคมชัดเจน
เมื่อหนุ่มสาวจีนเริ่มหมดไฟ ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน แถมอยู่ในสภาพที่ตกต่ำสุดๆ ในห่วงโซ่สังคม ก่อให้เกิดเทรนด์ ‘มนุษย์หนู’ หรือ Rat People กลุ่มคนที่ชอบอยู่นิ่งๆ เฉยๆ กินๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้อง ใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆ โดยไม่คิดจะทำอะไรมากกว่านั้น หรือเรียกสั้นๆ ว่าเป็นคนสันหลังยาว ไม่ชอบทำอะไรที่เป็นสาระ รวมถึงการปฏิเสธการทำงานหนัก ต่างกับพฤตกรรมคนจีนดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง
ทีนี้เมื่อหางานใหม่ก็ไม่ได้ แถมไม่อยากถูกสังคมตราหน้า กดดันให้กลุ่มคนรุ่นกลางหันหน้าพึ่งพาบริการ ‘เช่าออฟฟิศ/บริษัท’ เพื่อ ‘แกล้งทำงานปลอมๆ’ สิ่งนี้กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ค่าบริการก็ถูกแสนถูก เริ่มต้นเพียงวันละประมาณ 30 หยวน หรือ 135 บาท โดยเรทราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบภายในออฟฟิศ อยากได้หรูแค่ไหน ตำแหน่งอะไร ผู้ประกอบการธุรกิจเหล่านี้ก็สามารถเนรมิตให้ได้ อุปกรณ์ภายในก็ครบและใช้งานได้จริง เรียกว่าเนียนจนไม่มีใครจับได้ว่าคุณกำลังแสร้งทำงานปลอมๆ อยู่เชียวหละ
จากสภาพความกดดันที่ได้รับ ส่งผลให้คนจีนรุ่นใหม่หลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต ครั้นจะไปปรึกษาพ่อแม่หรือญาติพี่น้องก็อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก จึงหันหน้าเข้าหาเอไอสัญชาติจีนแท้ๆ อย่าง ‘Deepseek’ คอยระบายความอึดอัด ขอความเห็นใจในสิ่งที่เจอ โดยไม่สนว่าเอไอเพื่อนรักจะมีทางออกให้ไหม ขอเพียงแค่เป็น ‘ศิราณีออนไลน์ (ทางใจ)’ ก็พอ
ดังนั้นแล้วนี่คือจุดหนึงที่เราต้องกลับมาให้ความสำคัญกันอีกครั้งกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การสร้างเส้นความเท่าเทียมให้เสมอภาค หรือห่างกันให้น้อยสุด เพราะคงไม่มีใครอยากจะเดินถอยหลัง…