ไอเอ็มเอฟแนะเอเชียสู้ศึกสงครามภาษีสหรัฐ ชี้ช่องลดการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้ขึ้น 0.6% แต่เศรษฐกิจเอเชียชะลอตัวจากปี 2024 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย 2025 ว่า ได้ปรับขึ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีอีก 0.6% จากเดิมที่เคยคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนปีนี้ ส่งผลให้ในปี 2025 เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 4.5% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวนั้น เป็นการชะลอตัวจาก 4.6% ในปี 2024 เนื่องจากภาคส่งออกเอเชียที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเร่งส่งสินค้าก่อนที่มาตรการปรับขั้นภาษีของสหรัฐอเมริกาจะมีผลบังคับใช้

ขณะที่ คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในปี 2026 จะชะลอลงแตะระดับ 4.1% เนื่องจากผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า อุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน และการบริโภคภาคเอกชนที่ซบเซาในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า การค้าเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย โดยมีจีนเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าทั่วโลก ซึ่งทำให้ภูมิภาคนี้มีความเปราะบางต่อผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตลอดจนมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ และกระแสการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอที่เติบโตน่าทึ่ง ทำให้การค้าภายในภูมิภาคเอเชียปรับตัวดีขึ้นขึ้น ขณะเดียวกัน หากเอเชียส่งเสริมการบูรณาการทางการค้าในภูมิภาค รวมถึงการยกเลิกกำแพงการค้า จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียสามารถกระจายตลาดส่งออก ลดต้นทุน และชดเชยแรงกดดันบางส่วนจากผลกระทบของมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาได้

นอกจากนี้ ทวีปเอเชียจะได้ประโยชน์จากการทำข้อตกลงทางการค้าร่วมกันในวงกว้างขึ้น เช่นเดียวกับที่เห็นในสหภาพยุโรป หรืออียู เนื่องจากในปัจจุบันการมุ่งเน้นที่ข้อตกลงทวิภาคีทำให้เกิดกฎเกณฑ์ที่ทับซ้อนกันและมาตรฐานที่ไม่สอดคล้องกัน การลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังคงมีอยู่ทั่วไปในเอเชียนั้น สามารถให้ประโยชน์กับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียได้อย่างมาก

กฤษณะ ศรีนิวาสัน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า หากเอเชียบูรณาการกันมากขึ้นภายในภูมิภาค ก็จะช่วยเป็นเกราะป้องกันแรงกดดันจากภายนอก เอเชียมีความเชื่อมโยงอย่างมากในการค้าสินค้าขั้นกลางโดยประมาณ 60% ของการส่งออกทั้งหมดเกิดขึ้นภายในภูมิภาค ในทางตรงกันข้าม มีเพียง 30% ของการส่งออกสินค้าขั้นสุดท้ายของประเทศในเอเชียเท่านั้นที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาค ซึ่งเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และยุโรป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles