วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2568) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มสำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัมอยู่ที่ประมาณ 423 บาท โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) บริหารจัดการเงินกองทุนให้สอดคล้องกับแนวทางการดูแลราคาก๊าซ LPG ต่อไป
ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน จำนวน 2 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพยากรณ์และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ มีหน้าที่จัดทำพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าในระยะยาวและจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) เพื่อให้การจัดหาไฟฟ้าระยะยาวมีประสิทธิภาพและมั่นคง สอดคล้องกับเศรษฐกิจของประเทศ มี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นประธานอนุกรรมการ นายคุรุจิต นาครทรรพ และ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นรองประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วย
-ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
-ผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
-ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
-ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
-ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
-ผู้แทนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
-ผู้แทนสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
-ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
-ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
-ผู้แทนการไฟฟ้านครหลวง
-ผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
-ผู้แทนองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
-นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี
-นายนที สิทธิประศาสน์
-นายกวิน ทังสุพานิช
-นายกุลยศ อุดมวงศ์เสรี
-นายเทียนไชย จงพีร์เพียง
โดย คณะอนุกรรมการชุดนี้มี ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และ ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้มีมติ เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขับเคลื่อนการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศและประสานความร่วมมือการวางแผนและก่อสร้างระบบสายส่งเชื่อมโยงระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมืออื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วย
-ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
-ผู้แทนกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน
-ผู้แทนกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
-ผู้แทนกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ
-ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
-ผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
-ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด
-กรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือผู้แทน
-ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
-ผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
และในคณะอนุกรรมการชุดนี้ มี ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กบง. เสนอร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 2 คณะดังกล่าวต่อประธาน กบง. เพื่อลงนามต่อไป