นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับลดลงมาอยู่ที่ฟองละ 3.00 บาท ว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด และได้มีการหารือเบื้องต้นกับเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทราบว่า ปัจจุบันปริมาณไข่ไก่สะสมในระบบค่อนข้างมาก เป็นผลมาจากช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่เย็นลง เอื้ออำนวยต่อการให้ไข่ของไก่ไข่ ในขณะที่ภาวะการค้าและการบริโภคชะลอตัว จากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับโรงเรียนปิดเทอม และเทศกาลกินเจ ส่งผลให้มีไข่ไก่สะสมอยู่ในระบบเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง พลัส ทำให้ภาวะการค้าคล่องตัวเพิ่มขึ้น
โดยจากการติดตามสถานการณ์ล่าสุด ทั้งการสอบถามผู้ค้าไข่ไก่ และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ได้ข้อมูลว่า ตั้งแต่มีการเปิดเทอม และมีการเริ่มโครงการคนละครึ่ง พลัส ทำให้ระบายไข่ไก่ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไข่ไก่เริ่มทยอยออกจากระบบ ทำให้สต๊อกส่วนเกินลดลง และราคาเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แนวโน้มราคาไข่ไก่อาจทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระยะต่อไป จากภาวะการค้าและการบริโภคที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามโครงการคนละครึ่ง พลัส ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยเกษตรกรเพิ่มช่องทางกระจายจำหน่ายไข่ไก่ และสร้างแรงจูงใจในการบริโภคไข่ให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้น กรมจะดำเนินการเชื่อมโยงไข่ไก่จากเกษตรกรในแต่ละพื้นที่เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ในราคาที่เหมาะสม โดยดำเนินการผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เป้าหมายระบายไข่ไก่ 3.5 ล้านฟอง ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17-23 พ.ย. 2568 และกรมพร้อมที่จะพิจารณาใช้มาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลผลิตไข่ไก่
อย่างไรก็ดี ในด้านของผู้บริโภค นายวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ไข่ไก่นับเป็นอาหารโปรตีนคุณภาพดี ราคาย่อมเยา และเป็นวัตถุดิบสำคัญในครัวเรือนที่สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้ในราคาที่เข้าถึงได้ทุกครัวเรือน จึงขอเชิญชวนประชาชนบริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ให้สามารถระบายผลผลิตได้มากขึ้น เป็นการช่วยเหลือกันในระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ