เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ สัปดาห์นี้คาดเคลื่อนไหว 32.10-32.60 บาทต่อดอลลาร์ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามทิศทางเงินเยนที่อ่อนค่าลงจากการคาดการณ์ว่า BOJ อาจยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานราชการสหรัฐฯ ที่สิ้นสุดลง หลังคองเกรสสามารถตกลงร่วมกันในเรื่องกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายแล้ว

อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่าในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะกลับมาประกาศหลังชัตดาวน์ อาจออกมาอ่อนแอ แต่กรอบการแข็งค่าของเงินบาทก็เป็นไปอย่างจำกัด และเงินบาทกลับไปอ่อนค่าลงอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านยังคงส่งสัญญาณกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้จังหวะการลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ยังมีความไม่แน่นอน

 ในวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 พ.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 10-14 พ.ย. 2568 นั้น แม้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 6,589 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 2,612 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 3,652 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 1,040 ล้านบาท)

สำหรับในสัปดาห์นี้ (17-21 พ.ย. 2568 ) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.10-32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 และการส่งออกเดือนต.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก

ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ต.ค. และอาจจะมีเครื่องชี้เศรษฐกิจอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ที่กลับมาประกาศหลังภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ สิ้นสุดลง นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของญี่ปุ่น การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น และข้อมูล PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles