นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/68 จะสูงกว่า 0.6% จากที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลซึ่งมีทั้งมาตรการระยะสั้น และระยะยาว โดยเม็ดเงินที่ลงได้ทันทีมาจากการคืนภาษีกรมสรรพากร 60,000 ล้านบาท และจากมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วย SMEs วงเงิน 217,000 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการได้บางส่วน และเมื่อรวมกับมาตรการเสาที่ 1 คนละครึ่ง พลัส มั่นใจว่าจะขยายตัว เกิน 0.6%
ส่วนผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จากการประเมินมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพียง 0.1% เท่านั้น เพราะในภาคใต้ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับขนาดจีดีพี 20 ล้านล้าน ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ผลกระทบเชิงชีวิตประชาชนถือว่าใหญ่มาก ซึ่งมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวันนี้ต้องการเข้าไปช่วยฟื้นฟูให้ประชาชนให้กลับบมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ การใช้งบประมาณช่วยน้ำท่วม ในหลายส่วนที่เข้าไปช่วยเรื่องน้ำท่วมไม่ได้ใช้งบกลางมากเท่าไหร่ ซึ่งมีการใช้เงินจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินหรือ FIDF ลงไปช่วยน้ำท่วมด้วย ซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณ โดยไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง ซึ่งไม่ได้เป็นการก่อภาระหนี้เพิ่ม ไม่ได้กู้ใหม่ ใช้กรอบวงเงินงบประมาณเดิม แม้งบกลางจะมีจำกัด แต่ต้องศึกษากรณีนำมาใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป ทั้งการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 หากได้ความคืบหน้าจะมาแจ้งให้ทราบ