ไทยพาณิชย์ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการมาตรฐาน Green Hotel Plus ปลุกพลังโรงแรมภาคใต้ บนเส้นทางความยั่งยืนรับรับท่องเที่ยวไทย

ธนาคารไทยพาณิชย์ตอกย้ำความมุ่งมั่นผู้นำการเงินยั่งยืน พร้อมสนับสนุนธุรกิจโรงแรมยกระดับมาตรฐานรองรับท่องเที่ยวยั่งยืน ผนึกกำลังกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “เตรียมความพร้อมสู่การรับรอง Green Hotel Plus กับ SCB” เพื่อยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนของธุรกิจโรงแรมไทยตามเกณฑ์ Green Hotel Plus (GHP) ซึ่งได้รับการรับรองจากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council: GSTC) แก่กลุ่มโรงแรมภาคใต้ ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากโรงแรมที่ผ่านการรับรอง GHP กับการคว้าโอกาสเติบโตบนกระแสการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์จากธนาคารเพื่อสนับสนุนการขอรับมาตรฐาน GHP อย่างเป็นระบบ 

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภายใต้แนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” ธนาคารฯ นำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการวางยุทธศาสตร์และการดำเนินงานในทุกหน่วยธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่กำลังเผชิญทั้งความท้าทายจาก Climate Change ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ธนาคารฯ มุ่งมั่นเป็นพันธมิตรตลอดเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญต่อการผลักดันความยั่งยืนของประเทศให้สามารถเปลี่ยนผ่านจากการดำเนินธุรกิจอยู่เดิมและเริ่มปรับตัว (Less Brown) ไปสู่ Green ให้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยโซลูชันการเงินยั่งยืนของธนาคาร และการนำพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG เข้ามาช่วยสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจ เพื่อผลักดันพอร์ตสินเชื่อธุรกิจโรงแรมและบริการให้สามารถปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อธุรกิจโรงแรมมากกว่า 130,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนสำคัญอยู่ในจังหวัดภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน ด้วยความรับผิดชอบธนาคารจึงตั้งเป้าปรับ “พอร์ตโรงแรม” ทั้งหมดให้เป็นพอร์ตที่ขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนอย่างชัดเจน ซึ่งครอบคลุมในหลายมิติ เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานทดแทน การจัดการน้ำและของเสียอย่างเป็นระบบ การดูแลชุมชนและสังคม การรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม และการดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล

สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่หรือเครือโรงแรมที่มีความพร้อมลงทุน ธนาคารส่งเสริมให้ยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างและการบริหารจัดการอาคารสู่ระดับสากล เช่น มาตรฐานอาคารเขียว LEED, Edge และ TREES ซึ่งช่วยทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านภาพลักษณ์และการดึงดูดลูกค้าต่างชาติ ขณะที่โรงแรมดั้งเดิมที่ยังไม่ถึงจังหวะลงทุนขนาดใหญ่ ธนาคารพัฒนาสินเชื่อและแพ็กเกจสนับสนุนด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน การบริหารจัดการน้ำและขยะ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนได้อย่างเหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละแห่ง

ดร.ยรรยง กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดการเริ่มปรับตัวก่อน ว่า “เราเชื่อว่าการลงมือปรับตัวด้านความยั่งยืนอย่างรวดเร็วและจริงจัง จะทำให้เราเป็นผู้ขับเคลื่อนทิศทางการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพียงรอรับผลกระทบ เราจะสามารถกำหนดเส้นทางการเติบโตให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ของโลก และเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของลูกค้าเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง นี่คือหัวใจของธนาคารไทยพาณิชย์ในการขับเคลื่อนบนเส้นทางความยั่งยืน พร้อมย้ำบทบาทของธนาคารในฐานะพันธมิตรที่เดินเคียงข้างลูกค้าธุรกิจโรงแรมในฐานะ Trusted partner บนเส้นทางสู่ความยั่งยืน”

การปรับตัวของธุรกิจโรงแรมไทยสู่ความยั่งยืน สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวโลก จากรายงานด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนของ Booking.com ปี 2025 พบว่า นักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 84% ต้องการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 76% ในปี 2023 ขณะเดียวกัน SCB EIC ชี้ว่าแรงกดดันจากข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรปอย่าง Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD) และ Corporate Sustainability Due Diligence Directive (CSDDD) ภายใต้ European Green Deal ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี 2028 จะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมไทยที่ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม OTA ระดับโลกต้องเร่งปฏิบัติตามมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล เช่น GSTC และ Green Hotel Plus ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็น GSTC-Recognized Standard

ภายในงานอบรมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงในการเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงแรมที่ผ่านการรับรอง GHP พร้อมกิจกรรม Workshop เพื่อให้เข้าใจเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานจริง รวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากโรงแรมที่ได้รับการรับรองแล้วว่ามีผลลัพธ์เชิงบวกทั้งด้านต้นทุน ภาพลักษณ์ และการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมร่วมเป็นวิทยากร และให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), กองทุน ThaiCI โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน, สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้, กลุ่มโรงแรมดีวาน่า, โรงแรมมันดาราวา รีสอร์ท แอนด์ สปา, บริษัท เอเบิล คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท แอดแวนเทจ คอนซัลติ้ง จำกัด และ บริษัท อินเตอร์เอ็นจิเนียริ่ง มาเนจเม้น จำกัด” นอกจากนี้ ไทยพาณิชย์ยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้เข้าร่วม เช่น ส่วนลดค่าอบรมจากหน่วยงานพันธมิตร กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเสริมความเข้าใจสำหรับลูกค้า SCB ผลิตภัณฑ์สินเชื่อพิเศษเพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านความยั่งยืน และบริการ One Stop Service ในการประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้การเข้าสู่มาตรฐาน GHP เป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น

มาตรฐาน Green Hotel Plus (GHP) จัดทำโดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมเสาความยั่งยืน 4 ด้าน ได้แก่ การจัดการความยั่งยืนและธรรมาภิบาล ความยั่งยืนด้านสังคมและเศรษฐกิจ ความยั่งยืนด้านวัฒนธรรม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม  GHP เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก GSTC (Global Sustainable Tourism Council Criteria) ว่าเทียบเท่ามาตรฐานสากลด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน (GSTC Recognized) จึงเป็นการยกระดับโรงแรมไทยสู่มาตรฐานระดับโลก รองรับนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการรักษ์โลก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและโอกาสทางการตลาด ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนผ่านแนวทางปฏิบัติที่ดีในการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย และของธนาคาร

“การจัดอบรมในครั้งนี้สะท้อนพันธกิจของไทยพาณิชย์ในการขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยดูแลลูกค้าให้อยู่ในเส้นทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเสริมศักยภาพให้โรงแรมไทยก้าวสู่การเป็นโรงแรมสีเขียว (Green Hotel) ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ซึ่งให้ความสำคัญกับการรักษ์โลกและการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการเป็นเจ้าภาพการประชุมการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก (Global Sustainable Tourism Conference 2026) ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2569 นี้” ดร.ยรรยง กล่าว

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles