แบรนด์หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นสุดดัง ไอโรบอท (iRobot) ประกาศล้มละลาย เซ่นพิษสงครามลดราคายันภาษีสหรัฐ คู่แข่งแบรนด์จีนพีเซียจากเสินเจิ้นฮุบกิจการไปต่อ

แบรนด์หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นสุดดัง ไอโรบอท (iRobot) ประกาศล้มละลาย เซ่นพิษสงครามลดราคายันภาษีสหรัฐ คู่แข่งแบรนด์จีนพีเซียจากเสินเจิ้นฮุบกิจการไปต่อ

ไอโรบอท คอร์ป (iRobot) แบรนด์เครื่องดูดฝุ่นสูญญากรรมด้วยระบบหุ่นยนต์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยมียอดขายสูงสุดถึงปีละ 40 ล้านเครื่องด้วยรุ่นชื่อว่ารูมบ้า (Roomba) และก่อตั้งโดยนักศึกษาวิศวกรหุ่นยนต์ 3 คนในมหาวิทยาลัยเอ็มไอที รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อ 35 ปีผ่านมา ประกาศล้มละลายตามกฎหมายมาตรา 11 ของสหรัฐอเมริกา หลังจากได้เคยส่งสัญญาณว่าธุรกิจเผชิญกับโอกาสที่จะไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สาเหตุจากการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง สงครามราคา และมาตรการภาษีการค้า นอกจากนี้ มีหนี้สะสม 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,985 ล้านบาท ที่สำคัญ พีเซีย (Picea) ซึ่งเป็นบริษัทและผู้ผลิตสินค้าสัญชาติจีนให้กับไอโรบอท ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของไอโรบอทหลังประกาศล้มละลาย

ในปี 2024 ผ่านมา ไอโรบอททำรายได้ 682 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 21,483 ล้านบาท แต่กำไรกลับหดหายอย่างมากจากการแข่งขันด้านราคาของอีโคแวคส์ (Ecovacs) ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นสูญญากาศด้วยระบบหุ่นยนต์ของจีน ถึงแม้ว่าไอโรบอทจะเป็นผู้นำมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 42% และในญี่ปุ่นถึง 65% ของตลาดเครื่องดูดฝุ่นสูญญากาศด้วยระบบหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นตลาดหลักสำคัญ แต่การแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้ต้องลดราคาขายลงมามาก และต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการลงทุนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยี

นอกจากนี้ มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ในช่วงแรกของการประกาศใช้อัตราภาษีสูงถึง 46% กับเวียดนาม ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงด้านต้นทุนการผลิตอย่างมาก เนื่องจากไอโรบอทมีโรงงานผลิตที่เวียดนาม เพื่อนำเข้ามาขายในตลาดสหรัฐอเมริกา ทำให้ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 724.5 ล้านบาทในปี 2025 นี้

อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐอเมริกา เคยเสนอเงิน 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 44,100 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการไอโรบอท แต่การเจรจาซื้อกิจการดังกล่าวล้มเหลว และได้รับการตรวจสอบอาจละเมิดการแข่งขันในตลาดสหภาพยุโรป ท่ามกลางไอโรบอทกู้ยืมเงิน 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,985 ล้านบาท เพื่อนำมาปรับปรุงโครงสร้างการเงินของบริษัท แต่สถานการณ์การเงินกลับย่ำแย่ ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้ผลิตสินค้าในประเทศจีนมีชื่อว่าพีเซีย (Pecia) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเสินเจิ้น ทำให้ผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวเข้าซื้อหนี้ของไอโรบอทจากเจ้าหนี้ชื่อว่าคาร์ลไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มูลค่าหรือขนาดของไอโรบอท ซึ่งมีพนักงานรวม 274 คน และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์สหรัฐอเมริกา มีค่าเหลืออยู่ที่ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4,410 ล้านบาท ลดหายมากถึง 3,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 107,730 ล้านบาท หรือดำดิ่งหนักถึง -2,442% ในช่วง 4 ปีผ่านมา

ในปี 2021 ไอโรบอทมีมูลค่าหรือขนาดของบริษัทสูงถึง 3,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 112,140 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเวลานั้นถือเป็นยุคทองของไอโรบอตเนื่องจากวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 ทั่วโลกได้กลายเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้า และแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นสูญญากรรมด้วยระบบหุ่นยนต์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงและจำนวนประชากรเกิดใหม่ลดน้อยลงโดยเฉพาะในตลาดสำคัญอย่างประเทศญี่ปุ่น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles