หนี้ครัวเรือนไทยพุ่งกว่า 15 ล้านล้านบาทใหญ่ เฉียดเท่าขนาดเศรษฐกิจทั้งประเทศไทย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสื่อด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนประเทศไทยมีมูลค่าสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขึ้นมาเป็น 472,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15.6 ล้านล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าเกือบเท่ากับมูลค่าเศรษฐกิจทั้งประเทศไทยในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อนำไปแก้ไข หรือบรรเทาภาระหนี้สิน หรือสร้างรายได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย

การแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อขนาดจิ๋ว หรือนาโนไฟแนนซ์ในประเทศไทย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนไทยหันไปใช้บริการจากธุรกิจดังกล่าวซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย พบว่า มีการแข่งขันเพื่ออนุมัติเงินกู้ผ่านสมาร์ทโฟนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่ช่วยคำนวนพร้อมอนุมัติเงินกู้ภายในไม่กี่นาทีกับเงินกู้ขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน ผลจากการแข่งขันในธุรกิจประเภทนี้ ทำให้สินเชื่อในธุรกิจนาโนไฟแนนซ์พุ่งทะยาน 21% ในปีนี้ ซึ่งทำสถิติพุ่งทะยานถึง 7% เมื่อเทียบสินเชื่อในธุรกิจสินเชื่อดั้งเดิม เช่น ธนาคารพาณิชย์

สำหรับมูลค่าหนี้ครัวเรือนในประเทศไทยสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 14.3 ล้านล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวนั้น เป็นมูลค่าหนี้ที่เพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านบาทจากการกู้ยืมเงินที่อยู่นอกสินเชื่อของสถาบันการเงินดั้งเดิม เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารรัฐ เป็นต้น มูลค่าหนี้ครัวเรือนที่สะสมถึง 14.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 91% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย หรือเข้าใจง่ายๆ คือ มูลค่าเศรษฐกิจทั้งประเทศไทยที่มีอยู่ 15.7 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท โมนิกซ์ (Monix) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อในตลาดสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ในประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจล่าสุด พบว่า ประชาชนราว 36 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้มี 28 ล้านคนที่มีอาชีพอิสระ ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้กับสถาบันการเงินดั้งเดิมได้ เนื่องจากคนกลุ่มเหล่านี้ไม่มีเอกสารรายได้ประจำต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีประวัติการเงินที่ชัดเจน