สหพัฒน์ทยอยขึ้นราคาสินค้าในเครือ ลั่นสต็อกเก่ามาม่าหมดแล้ว ขอขึ้นซองละ 1 บาท

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทแบกรับต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสูงเกินราคาที่จัดจำหน่ายแล้ว จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน เร่งการพิจารณาตามคำขอของผู้ผลิตในการปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง

บริษัทจะมีสต็อกวัตถุดิบเพื่อการผลิตทุก 2-3 เดือนต่อรอบ และสต็อกต้นทุนเดิมได้หมดไปแล้ว ขณะนี้การผลิตจะเป็นต้นทุนใหม่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ แม้การจะปรับขึ้น 1 บาทต่อซอง ยังเป็นราคาที่ภาคเอกชนยังต้องแบกรับต้นทุนที่สูง จริงๆในหลักการค้า รัฐควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด

กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) กล่าวต่อไปว่า ต้นทุนในปัจจุบันเพิ่มสูง โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มขึ้นไป 110% หรือมากกว่านั้น ข้าวสาลีเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 53% ซึ่งทั้ง 2 ตัวรวมกันประมาณครึ่งหนึ่งของต้นทุนทั้งหมดและการที่น้ำมันขึ้นราคา ทำให้แพคเกจจิ้งทยอยขึ้นหมด รวมถึงค่าขนส่งและกระบวนการต่างๆก็ขึ้นเช่นกัน ขณะที่ภาพรวมกำลังซื้อก็ไม่เหมือนเดิม ลดลงพอสมควร เมื่อเทียบก่อนเกิดโควิด ทั้งนี้ยืนยันว่าการที่กำลังซื้อลดลงไม่เกี่ยวกับการขึ้นราคามาม่าเสมอไป

จากต้นทุนที่ต้องแบกรับสูงต่อเนื่อง รวมถึงภาระต้นทุนการผลิตในการตรึงราคาสินค้า ทำให้มีผลต่อรายได้ที่ลดลงค่อนข้างสูง ซึ่งในระยะยาวจะไม่เป็นผลดีต่อการทำธุรกิจรวมถึงสภาพตลาดทั่วไป ซึ่งเชื่อว่าการปรับราคาตามต้นทุนที่แท้จริง ตามกลไกตลาดจะมีวิธีการจัดการที่ไม่ส่งผลกระทบทั้งกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค