‘Gracz’ ยกเครื่องขยะทางการเกษตรสู่ภาชนะจากเยื่อพืชธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ปีนี้ต้องยกให้เทรนด์ธุรกิจสีเขียวขึ้นแท่นเทรนด์ล่ามาแรง จนหลายธุรกิจเริ่มตื่นตัวหันมาให้ความสำคัญพร้อมจับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นหนึ่งในนโยบายองค์กร และ ‘Gracz’ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจดีที่อยากแก้ต้นตอของการก่อโรคมะเร็ง กระทั่งหยิบเอางานวิจัยจากเยอรมนีมาพัฒนาจนเกิดเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่วางจำหน่ายอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ‘Gracz’ ก่อตั้งโดย นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ คุณหมอหนุ่มอารมณ์ดีที่เล็งเห็นความอัตรายจากภาชนะรวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่เป็นสารตั้งต้นของการทำลายสุขภาพ เฉพาะอย่างยิ่งกับโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นอันดับ 1 ของโลกและไทย จึงเกิดไอเดียในการคิดค้นภาชนะที่ผลิตขึ้นจากเยื่อของพืช โดยคุณหมอยึดเอางานวิจัยจากประเทศเยอรมนีมาเป็นแกนสำคัญในการพัฒนาควบคู่ไปกับด็อกเตอร์จากเยอรมนี พร้อมยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรไทยผ่านการรับซื้อขยะทางการเกษตรมาแปลงร่างเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เริ่มต้นจากเยื่อชานอ้อย ก่อนจะแตกมาเป็นบรรจุภัณฑ์จากเยื่อไผ่ ฟางข้าว และเยื่อพืชธรรมชาติชนิดอื่นๆ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดขยะทางการเกษตรมากถึง 60% มาจากต้นทุนด้านการขนส่งที่สูง เกษตรกรไม่สามารถแบกรับต้นทุนในส่วนนี้ได้ คุณหมอจึงลงพื้นที่เข้าไปให้ความรู้และเซ็ทโครงสร้างอุตสาหกรรมเล็กๆ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกในการต้มฟางข้าว ไปจนถึงกระบวนการตากแห้งให้กลายเป็นเยื่อ พร้อมกำหนดพื้นที่ส่วนกลางในการรวบรวมวัตถุดิบก่อนจะส่งต่อเพื่อไปในใช้การผลิตบรรจุภัณฑ์ของโรงงาน ‘Gracz’ ต่อไป
(ขอขอบคุณรูปจาก Gracz)
ซึ่งบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ของคุณหมอเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ชนิด Biodegradable จากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเป็นบริษัทเดียวใน AEC ที่ผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์และภาชนะที่มาจากเยื่อพืชธรรมชาติ ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไร้สารก่อมะเร็ง สามารถใส่อาหารได้ทั้งร้อนและเย็น เข้าไมโครเวฟ เตาอบ และช่องแช่แข็งได้
เนื่องจากต้นทุนของผลิตภัณฑ์จากเยื่อชานอ้อยมีราคาสูงกว่าพลาสติกและโฟมอยู่หลายเท่าตัว ทำให้ในช่วง 5 ปีแรกที่เปิดตัวยังค่อนข้างซบเซา จนต้องหันไปพึ่งพาตลาดส่งออกในแถบยุโรปถึง 95% แต่คุณหมอก็ไม่ยอมแพ้ กลับกัดฟันพัฒนาผลิตภัณฑ์จนสามารถปรับราคาในการจำหน่ายจาก 5 บาท ลงมาเหลือ 2 บาทได้เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ ‘Gracz’ เริ่มเข้ามาแข่งขันในตลาดในประเทศได้มากยิ่งขึ้น จนดึงสัดส่วนการขายในประเทศกลับมาได้เป็น 50% ของการขายทั้งหมด
ปัจจุบัน ‘Gracz’ ไม่ได้มีแค่ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหาร แต่ยังขยายธุรกิจไปสู่ตลาดทางการแพทย์ด้วยการคิดค้นภาชนะทางการแพทย์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่นอกจากจะช่วยเซฟต้นทุน ยังป้องกันการส่งต่อเชื้อโรคจากการสัมผัสซ้ำๆ ได้อีกด้วย
