‘HATO’ ยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงก่อนป่วยด้วยบริการสุดพรีเมียม ดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในแบบครบวงจร
“ทำไมค่ารักษาสัตว์แพง เพราะมาหาคุณหมอช้า ถ้าเราแก้ปัญหาก่อนที่โรคจะเกิด เราจะมีช่องว่างในตลาด และช่วยให้หมาแมวคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้”
(ขอบคุณรูปภาพจาก HATO)
หลายปัจจัยลบในปัจจุบันทำให้คู่รักเลือกที่จะปิดอู่ไม่มีเจ้าตัวน้อย และหันไปให้ความสนใจกับการเลี้ยงสัตว์ทดแทน จนดันมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยโตถึง 75,000 ล้านบาทในปี 2567 เฉลี่ยโตแรงถึง 12–15% พร้อมก้าวสู่การเป็นตลาด Premium ที่เจ้าของยอมควักกระเป๋าจ่ายแลกคุณภาพชีวิตที่ดีของเหล่าลูกรักสี่ขา ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น แมว 1 ตัวใช้วงเงินเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 40,000 บาทต่อปี อีกทั้งการเจ็บป่วย 1 ครั้งยังใช้เงินรักษามากมาย นั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณหมอม่อน น.สพ.สุพพัต ปิยะชัยวุฒิ เกิดไอเดียที่อยากจะทำโมเดล Pet Wellness ยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงพร้อมอุดรอยรั่วที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย มาต่อยอดเป็นธุรกิจดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจรด้วยแนวทางของศาสตร์เชิงป้องกัน (Preventive Medicine) ภายใต้แบรนด์ ‘HATO’ เปิดศูนย์สุขภาพสัตวเลี้ยงชื่อ ‘Hato Pet Wellness Center’ ที่ดูแลสุขภาพสัตว์ตั้งแต่บริการฉีดวัคซีน ทั้งยังมีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อสำหรับการทำหมัน บริการ Grooming อาบน้ำตกแต่งขนและสปาสัตว์เลี้ยง บริการสระว่ายน้ำสำหรับการออกกำลังกายและผ่อนคลายให้กับสัตว์ ไปจนถึงโรงแรมหมาและโรงแรมแมวที่มีพื้นที่ Outdoor Play และ Indoor Play ปัจจุบันมีมากถึง 5 สาขา ได้แก่ HATO @ สุขุมวิท 39, HATO Home @ สุขุมวิท 71, สาขา Central Eastville, HATO at Pet N Me สาขา Central Westgate, HATO Cat Wellness Center สาขา ถ.พระราม 9
(ขอบคุณรูปภาพจาก HATO)
เมื่อกิจการเริ่มแข็งแรง คุณหมอม่อนจึงเริ่มทำการขยายโมเดลธุรกิจเจาะกลุ่มลูกค้าในเซ็กเมนต์ Premium Mass เปิดตัว ‘โรงพยาบาลสัตว์ฮาโตะ’ ศูนย์ดูแลสัตว์แบบครบวงจรคุณภาพสูง ครอบคลุมตั้งแต่สุขภาพภายนอกไปจนถึงภายใน รวมถึงสภาพจิตใจของสัตว์เลี้ยง โดยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา ได้แก่ สาขารังสิต สาขาชัยพฤกษ์ และสาขาพัฒนาการ
(ขอบคุณรูปภาพจาก HATO)
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน ‘HATO’ มีสาขาอยู่แค่ในเมืองกรุง แต่เมื่อถามถึงโอกาสว่าพอจะเป็นไปได้ไหมว่าจะมีการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด หมอม่อนก็มองว่ามี แต่ก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนถึงปัจจัยหลายด้าน ทั้งเรื่องการควบคุมคุณภาพการบริการ และจำนวนบุคลากร เนื่องจากในปัจจุบันตลาดเมืองไทยยังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพนี้ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็มองว่านี่เป็นโอกาสในตลาดแรงงานของวิชาชีพนี้ เพราะการแข่งขันยังน้อย ถูกยอมรับได้มาก และมีค่าตอบแทนที่สูง
