เปิดตำนานไร่ชามัตจะ ชิซุโอกะ สู่เมนูชามัตจะในร้านอินทนิล l BTimes

เยือนตำนานไร่ชามัตจะที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น อายุกว่า 150 ปีจากเมืองชิซุโอกะ แหล่งผลิตชาเกรดพรีเมียมสู่เมนูมัตจะในร้านอินทนิล

ผงมัทฉะ มัตจะ จากไร่ชา ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen Co., Ltd.)’ เมืองชิสุโอกะ ญี่ปุ่น

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมาเป็นลำดับต้นๆ จนเกิดกระแส ‘มัตจะฟีเวอร์’ ที่เขย่ามูลค่าตลาดให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดโลกอย่าง Euromonitor รายงานว่าในปี 2024 ตลาดค้าปลีกชาทั่วโลก มีมูลค่า 51,470 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวถึง 3.5% จากปีก่อนหน้า โดยชาเขียวมาแรงเป็นอันดับ 2 กวาดสัดส่วนของตลาดสูงถึง 22.8% ทั้งยังขึ้นแท่นคีย์เซิร์จสุดฮอตของชาวโซเชียลผ่านสถิติการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย (Engagement) ทะลุกว่า 5.2 ล้านครั้ง ภายใน 2 เดือนแรกของปี 2025 รวมถึงยังมีการคาดการณ์จากกูรูว่าตลาดมัตจะ (มัทฉะ) ทั่วโลกมีแนวโน้มจะโตมากขึ้น เฉลี่ย 9.44% ต่อปี ในระหว่างปี 2022–2027 และในปี 2027 คาดการณ์ว่าจะมีรายได้มากถึง 5,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 178,750 ล้านบาท

และวันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ทีมงาน BTimes จะเกาะติดคุณบัญชา (อีกครั้ง) เพื่อพาแฟนๆ บินลัดฟ้าไปเยือนแหล่งกำเนิดไร่ชาที่ดีที่สุดในเมืองชิสุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

ไร่ชา มัทฉะ ชาเขียว มัตจะ ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen Co., Ltd.)’ เมืองชิสุโอกะ ญี่ปุ่น

ไร่ชาดังกล่าวมีชื่อว่า ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen Co., Ltd.)’ 1 ใน 3 ไร่ชาเขียวที่ใหญ่ที่สุด และเป็นไร่ชาเก่าแก่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองชิสุโอกะ ไร่ชาแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1870 หรือในสมัยเมจิที่ 3 หรือมีอายุเก่าแก่ถึง 155 ปี โดยมีคุณสึโยมิ มัตสึดะ ทายาทรุ่นที่ 5 คุมบังเหียนการบริหาร หากดูเผินๆ อาจจะไม่รู้ว่าคุณสึโยมิอายุ 72 ปีแล้ว เพราะภายนอกยังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉง ซึ่งเคล็ดลับความสุขภาพดี อายุยืน มาจากการดื่มชาที่ผลิตจากไร่แห่งนี้นั่นเอง
ปัจจุบันไร่ชาและโรงงานชายามามะ มัตสึดะเอ็น มีกำลังการผลิตมากกว่า 100 ตันต่อปี นอกจากนี้ผลิตภัณท์ชาเขียวแห่งไร่ยามามะ มัตสึดะเอ็น ยังพรีเมียมจนได้ส่งออกไปยัง 30 ประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1991 หรือเมื่อ 34 ปีผ่านมา

คุณสึโยมิ มัตสึดะ ทายาทรุ่นที่ 5 ไร่ชา มัทฉะ ชาเขียว มัตจะ ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen Co., Ltd.)’ เมืองชิสุโอกะ ญี่ปุ่น

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาของไร่ยามามะ มัตสึดะเอ็น มีความพรีเมียมจนผู้บริโภคให้การยอมรับ ก็มาจากแนวคิดการผลิตชาอย่างยั่งยืนผสานเกษตรแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งยังบริหารจัดการด้วยแทงค์น้ำขนาด 8,000 ตัน พร้อมระบบสปริงเกลอร์ เพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อการผลิต รวมถึงมีการนำปุ๋ยอินทรีย์ผสมมาใช้ทดแทนสารเคมี มีการวางระบบลมพัดหมุนเวียนตลอดในไร่ชาด้วยการติดตั้งพัดลมสูงทำมุมกับช่องว่างระหว่างแถวปลูกชา อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ใบชาได้คุณภาพก็คือรอบการเก็บเกี่ยว ไร่ชาแห่งนี้จะมีรอบเก็บเกี่ยวทั้งหมด 4 ช่วง ได้แก่

ช่วงที่ 1: Ichibancha หรือชาใหม่ ซึ่งมีคุณภาพสูงที่สุด รสชาติกลมกล่อมที่สุด โดยจะเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งแรกของปีในฤดูใบไม้ผลิในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม

ช่วงที่ 2: Nibancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 2 ในฤดูร้อน ช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกรกฎาคม โดยใบชาในระยะนี้จะเติบโตเร็ว ทำให้มีรสขมและฝาดเล็กน้อย

ช่วงที่ 3: Sanbancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 3 ในฤดูใบไม้ร่วง ช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม โดยใบชาในระยะนี้เหมาะสำหรับนำไปทำขนมหรืออาหาร เพราะจะเริ่มมีการเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและมีรสขมยิ่งขึ้น

และช่วงที่ 4: Yonbancha เป็นการเก็บเกี่ยวครั้งที่ 4 ซึ่งพบได้ในบางพื้นที่ เกิดขึ้นช่วงประมาณปลายเดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม โดยการเก็บเกี่ยวในรอบที่ 3–4 จะได้ใบชาที่มีคุณภาพสูงมาก และเป็นการเก็บใบชาเพื่อนำไปทำเป็นผงชา หรือที่เรียกกันว่ามัตจะ (มัทฉะ) นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลช่วงการเก็บเกี่ยวใบชาจาก ichalean.wordpress.com

ด้วยวิธีคิดในการทำไร่ชายั่งยืนคู่กับวิธีการเก็บเกี่ยวใบชาที่มีความพิธีพิถันสูงมาก ส่งผลให้ในปี 2015 ไร่ชายามามะ มัตสึดะเอ็น ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดอย่าง ‘ถ้วยพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ตลอดระยะเวลา 64 ปีของการมอบรางวัลนี้ มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่ได้รับรางวัลในหมวดชา และได้รับการรับรอง Rainforest Alliance ที่เน้นการผลิตอย่างยั่งยืน

ข่าวดีสำหรับแฟนๆ มัตจะชาวไทย เพราะ ‘อินทนิล’ ร้านเครื่องดื่มชื่อดังของค่ายบางจาก ก็ไม่พลาดที่จะนำชาเกรดพรีเมียมจากไร่ชายามามะ มัตสึดะเอ็น มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการทำเครื่องดื่มให้ได้ลิ้มลอง โดยไร่ชายามามะ มัตสึดะเอ็นได้เตรียมจัดส่งชาเกรดพรีเมียมตรงมาให้แก่ร้านอินทนิลมากถึงปีละ 5 ตัน

คุณณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด คนที่ 1 (ซ้าย) / คุณสึโยมิ มัตสึดะ ทายาทรุ่นที่ 5 ไร่ชา มัทฉะ ชาเขียว มัตจะ ‘ยามามะ มัตสึดะเอ็น (Yamama Masudaen Co., Ltd.)’ เมืองชิสุโอกะ ญี่ปุ่น คนที่ 3 (นับจากซ้าย)

คุณณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด มองเห็นกระแสมัตจะในไทย จึงนำเข้าชาเขียวมัตจะตกปีละ 5 ตันจากไร่แห่งนี้ในเมืองจากชิซุโอกะ เน้นการคัดเฉพาะใบชารุ่นเก็บเกี่ยวในรอบที่ 3–4 สะท้อนสัญญาณชัดเจนว่าร้านอินทนิลเดินหน้าแข่งขันเครื่องดื่มชาเขียวพรีเมียมเต็มสูบในปีนี้ ตอกย้ำกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่คาดการณ์ว่าในปี 2025 นี้ ผงมัตจะจะมียอดนำเข้าแซงใบชาเขียวในไทยอย่างแน่นอน

อินทนิล คอฟฟี่ ในเครือ บางจาก เสิร์ฟเมนู มัทฉะ มัตจะ พรีเมียม

ร้านอินทนิลของค่ายบางจากตั้งเป้าขยายเมนูเครื่องดื่มชาเขียวพรีเมียมให้ครอบคลุมทุกสาขาทั่วประเทศภายในปี 2025 ด้วยเป้าหมายในการขายเพิ่มเป็น 200 แก้วต่อวันต่อสาขา จากในปัจจุบันที่ 100 แก้ว (รวมทุกเมนูไม่เฉพาะชาเขียว) พร้อมกับการเพิ่มจำนวนสาขาใหม่เป็น 1,800 สาขา จากปัจจุบันที่มีกว่า 1,100 สาขา เป้าหมายสำคัญคือยอดขายต้องเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท เครื่องดื่มมัตจะจึงเป็นส่วนหนึ่งในแผนเพิ่ม EBIDA ในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับรายได้จากน้ำมันของบางจาก ให้เติบโตได้ 30% ใน 3 ปีจากนี้ไป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles