เจาะศักยภาพความพร้อมประเทศไทยด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของโลก
Medical & Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงจ่อขึ้นแท่นเครื่องยนต์ฟื้นเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่ต้องบอกว่าประเทศไทยก็เป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ในระดับโลกที่ได้รับการยอมรับ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพื่อทำการรักษาอยู่เป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจาก Krungthai COMPASS ที่ประเมินว่าในระยะ 1–2 ปีนี้ รายได้จากคนไข้ต่างชาติของโรงพยาบาลเอกชน โดยเฉพาะกลุ่ม Medical Tourism ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง จากอานิสงส์ของกลุ่มลูกค้าชาวอาเซียน จีน รัสเซีย และตะวันออกกลาง ที่จะยังคงกลับมาใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนในไทย อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่ผนึกกำลังกับภาคเอกชนช่วยกันผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical hub) ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่จะเข้ามาปลุกสัญญาณชีพ ให้ทั้งภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ แพทย์ผู้ชํานาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และเวชศาสตร์วิถีชีวิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Wellness Tourism กำลังเป็นเทรนด์ร้อนของโลกที่ถูกจับตามอง เพราะนอกจากจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศได้มหาศาล นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังมีความใส่ใจสิ่งแวดล้อม และจากหลายปัจจัยบวกภายในประเทศ ส่งให้มูลค่าตลาดในกลุ่มธุรกิจ Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของประเทศไทยติดอันดับที่ 15 ของโลก จากการจัดอันดับโดยสถาบันด้านสุขภาพสากล หรือ GWI
จากศักยภาพทางการแพทย์ของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงผู้ประกอบการด้านภาคการท่องเที่ยวยังมีความครบเครื่องในด้านการบริการ และพื้นที่รองรับที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ทั้งที่ต้องการเดินทางเพื่อมารักษา หรือแม้แต่การจัดกิจกรรรมประชุม สัมมนา ลามไปถึงการจัดเฟสติวัลด้านสุขภาพ ยิ่งส่งให้คุณหมอแอมป์มองเห็นโอกาสในการพัฒนา จึงได้ริเริ่มโครงการร่วมกับ TCEB ชูจุดเด่นด้านการรักษาของไทย ผนวกกับภาคการท่องเที่ยว ผลักดันให้ไทยสามารถก้าวขึ้นแท่น Wellness Hub Thailand ในอนาคต เพื่อดึงเม็ดเงินมาใช้ในขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาเดินได้อย่างคล่องตัว