‘Pasta AMA’ ธุรกิจร้านอาหารที่กล้าจะฉีกกฎด้วยสูตร 7:10:15 จนสามารถเบียดขึ้นแท่นหัวแถวด้วยยอดขายกว่า 200 ล้าน
ธุรกิจร้านอาหารคือมหาสงครามที่ต่อให้รู้ว่าเสี่ยง แต่ก็ยอมเทหมดหน้าตัก เพราะแค่ทำอาหารได้ มีหัวครีเอท มีทุนสักก้อน มีความพร้อมสักหน่อย ก็เปิดได้ทันที ยิ่งปัจจุบันชีวิตถูกความเป็นดิจิทัลเข้ามาดิสรัป ส่งผลให้ร้านไหนจับเทรนด์ได้ไว ไหวตัวได้ทัน ก็มีโอกาสจะขยับขึ้นมาเป็นหัวแถว ดีไม่ดีอาจเป็นแกนนำตั้งขบวนแถวใหม่เลยก็เป็นได้ และ ‘Pasta AMA’ อดีต HR ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจ ชายที่ไม่กลัวอุปสรรค เพราะเขามีสูตร 7:10:15 เป็นตัวพาให้ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งหัวแถวที่ขยับเข้าสู่เส้นชัยความสำเร็จได้ดีทีเดียว

“ต้องบอกก่อนว่าก่อนจะเกิด Pasta AMA ขึ้น มันไม่ได้สวยงามแบบนี้”
คุณจี – จีรภัทร ศรีทองคำ ก็เหมือนกับเด็กจบใหม่ทั่วไปที่เริ่มต้นอาชีพด้วยการทำงานประจำในฝ่ายบุคคล แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือคุณจีมีเป้าหมายให้ตัวเองว่าจะต้องมีเงินเก็บ 2 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี… เมื่อเป้าหมายชัด ก้าวถัดไปคือการหาวิธีทางที่จะทำให้ฝันเป็นจริง คุณจีอาศัยเวลาก่อนและหลังเข้างานตระเวนขับมอเตอร์ไซค์ขายน้ำผลไม้ที่เชียงใหม่ ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด งานเสริมกลับสร้างรายได้ดีกว่างานประจำ เทียบให้เห็นชัดๆ คือ 100,000 บาท vs 15,000 บาท ต่างกันมากถึงกว่า 6 เท่า แต่อยู่มาวันหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตก็เกิดขึ้นผ่านการตัดสินใจขอย้ายงานจากเชียงใหม่ลงมากรุงเทพฯ โดยคุณจียังคงทำทั้งงานเสริมและงานหลักควบคู่กันไป เพียงแต่เปลี่ยนพื้นที่กระจายความสดชื่นจากน้ำผลไม้มาถึงที่กรุงเทพฯ ร่วมด้วย
หลังจากทำงานมาได้สักระยะ คุณจีก็ดอดมาเป็นร้านอาหารเหนือในย่านพญาไทชื่อว่า ‘พอวา’ ที่นำเอาอาหารเหนือรสมือแม่มาเป็นจุดขาย แต่กลับกลายเป็นไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คิด เพราะขาดทุนไปเต็มๆ ร่วม 6 เดือน…

เมื่อทำงานในกรุงเทพฯ มาครบ 1 ปี คุณจีมีความคิดที่อยากจะออกจากงานประจำมาลุยธุรกิจเต็มตัว หันหน้าปรึกษาครอบครัว แม้จะก็โดนยื้อด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง แต่คุณจีก็ยืนยันหนักแน่นว่า “ถ้าออกจากงานแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ต่อให้มันจะแย่มากๆ ต่อให้ต้องไปขายข้าวไข่เจียวข้างทางก็ไม่อาย แต่ขอออกมาทำใจสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ” สุดท้ายครอบครัวก็เคารพการตัดสินใจ พร้อมซัพพอร์ตอย่างเต็มกำลัง จากนั้นคุณจีเดินหน้าหาเติมความรู้ด้านธุรกิจและการตลาด คู่ไปกับการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ร้านเดิม รื้อระบบร้านใหม่ มีการเสริมเมนูอาหารประเภทพาสต้าเข้าไป เรียกได้ว่าทุกอย่างดูจะดีขึ้น จนกระทั่งโควิด–19 เข้ามาเคาะประตู กลับตาลปัตรกลายเป็นศูนย์อีกครั้ง สวนทางรายจ่ายที่วิ่งทุกวัน คุณจีตั้งทั้งหลักและสติประคองธุรกิจกับลูกน้องด้วยการลุยทำข้าวกล่องขายข้างทางในราคา 50 บาท จากนั้นก็ขยับขยายสู่การขายแบบเดลิเวอรีตามแอปพลิเคชัน โดยเริ่มต้นขายที่ 15 เมนู

“การทำอาหารบนออนไลน์ สิ่งสำคัญคือ ลูกค้าจะต้องกินด้วยตาก่อนกินด้วยปาก ถ้าน่ากินก็สั่ง”
อย่างที่ทราบกันดีว่าโควิด–19 เป็นตัวจุดประกายให้ธุรกิจร้านอาหารผุดขึ้นพรึบเป็นดอกเห็ด ดังนั้น ‘รูปภาพ’ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยจูงใจให้เกิดการซื้อครั้งแรก และ ‘Pasta AMA’ ก็ยกสิ่งนี้ขึ้นมาเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความอยากที่จะลอง ควบคู่ไปกับการทำการตลาดด้านอื่นๆ จนเกิดการซื้อจริง ซื้อซ้ำ และบอกต่อมาอย่างต่อเนื่อง ดันยอดขายฝั่งออนไลน์ Cloud Kitchen ของแต่ละสาขาโตสูง 800,000–1,000,000 บาท เรียกได้ว่าโตแรงแซงหน้าร้านได้มากทีเดียว

จากวันแรกที่ติดลบ สู่ยอดขาย 250 ล้านบาท พร้อมการมี 10 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และ 12 สาขาในส่วนออนไลน์ Cloud Kitchen ก็มาจากสูตรเด็ดสูตรเดียว นั่นคือ ‘7:10:15’ ที่หมายถึงการทำงาน 3 ขั้น ได้แก่
7 ที่มาจาก 1–7 วันแรก อยากทำอะไรให้ทำทันที แล้วค่อยมาวัดผลกันในวันที่ 7
10 คือวันแห่งการประชุมทีม เพื่อระดมสมองร่วมกัน เพื่อกำหนดแผนที่จะทำให้ ‘Pasta AMA’ เดินไปถึงเป้าหมาย
15 คือวันที่ใช้ในการวัดผลกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานต่างๆ ที่วางไว้ หลังจากวันที่ 15 เป็นต้นไป ก็นอนรอยอดสวยๆ สิ้นเดือนได้เลย
ซึ่งการทำงานในรูปแบบนี้ ส่งผลให้คุณจีและทีมสามารถคาดการณ์ยอดขายและอุดรอยรั่วที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้นั่นเอง