ถอดสูตรสุกี้สูตรโบราณในตำนานกว่าครึ่งศตวรรษ ‘เรือนเพชรสุกี้’ บนมือทายาทเจนใหม่ที่พลิกโฉมธุรกิจครอบครัวในความท้าทายของยุคสงครามสุกี้

ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความท้าทายของธุรกิจร้านอาหาร เพราะไม่เพียงแต่แย่งกันเปิดใหม่เป็นดอกเห็ด หลายร้านยังยอมกัดฟันกระโดดเข้าสู่วงจรสงครามลดราคา จัดโปรเฉือนเนื้อตัวเองชนิดที่ไม่สนใจกำไร ขอแค่เป็นกระแสและมีคนเข้ามามุงกันเยอะๆ เป็นพอ แต่สงครามนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนกับ ‘เรือนเพชรสุกี้’ เพราะหนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาบริหารได้บอกอย่างเด็ดเดี่ยวแล้วว่าที่นี่จะยังคงรักษาคุณภาพจากรุ่นอากง และจะไม่โดดลงไปสู่สงครามลดราคาอย่างแน่นอน

คุณโอ๊ต – พงศ์ธรรศ เลิศธนพันธุ์ หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ของเรือนเพชรสุกี้ เล่าว่าร้านสุกี้แห่งนี้เกิดขึ้นมาในช่วงปี 2511 แต่ก่อนจะมาจับธุรกิจร้านอาหารนั้น อากงได้ทำอาชีพขายเครื่องเทศอยู่ที่บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ก่อนจะเผชิญกับปัญหาการถูกโกง ส่งผลให้ธุรกิจที่พอจะไปได้กลับสะดุดหยุดลง จึงต้องหันมาจับอาชีพใหม่เพื่อความอยู่รอด จนไปจบที่การเปิดร้านอาหารเล็กๆ แถวย่านเพชรบุรี และนี่คือจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิดของ ‘เรือนเพชรสุกี้’ ร้านสุกี้และอาหารจีนสูตรโบราณในตำนานอายุเกือบๆ 60 ปี

‘เรือนเพชรสุกี้’ เติบโตจากการมีตึกแถว 1 ห้องบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ก่อนจะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงยุคของคุณโอ๊ต หนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ที่หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากประเทศจีน ก็ตัดสินใจตีตั๋วกลับบ้าน พร้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารกิจการ โดยยุคนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเริ่มตั้งแต่การวางระบบการบริหารจัดการหลังบ้าน การนำระบบ POS เข้ามาใช้เป็นตัวกลางในการจัดการออร์เดอร์และการขาย มีการปรับเมนูให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อลดทอนต้นทุนที่สูงเกินความจำเป็น มีการสร้างไฟล์ Excel กลางไว้ใช้ในการควบคุมต้นทุนและสต๊อกวัตถุดิบ มีการกำหนดค่าแรงและหน้าที่การทำงานที่ชัดเจนเหมาะสม ไปจนถึงการพา ‘เรือนเพชรสุกี้’ เจาะกลุ่มลูกค้าเจนใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ คู่การเปิดขายผ่านแอปเดลิเวอรี โดยปัจจุบัน ‘เรือนเพชรสุกี้’ กระจายความอร่อยไปยังแต่ละพื้นที่ถึง 5 สาขา

(ขอขอบคุณรูปจากเรือนเพชรสุกี้)
อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกธุรกิจที่ยืนในระยะไม่กี่ปีผ่านมา ต้องเคยเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดโควิด–19 และ ‘เรือนเพชรสุกี้’ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ฝ่าฟันปัญหาโดยที่ไม่ปลดพนักงานออกแม้แต่คนเดียว พร้อมผ่าทางรอดด้วยการประกาศขอเช่าครัวนอกในย่านบางนาและราชพฤกษ์ เพื่อประกอบอาหารและจัดจำหน่ายผ่านช่องทางเดลิเวอรี ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก เทียบได้จากยอดขายที่สูงเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด–19

ต้องยอมรับว่าต่อให้จะเปลี่ยนมือบริหารจากรุ่น 1 มาจนถึงรุ่น 3 แต่คุณภาพและรสชาติของอาหารยังคงถูกรักษาไว้อย่างดีเหมือนกับเมื่อ 60 ปีก่อนแบบเป๊ะๆ โดยเมนูซิกเนเจอร์นอกเหนือจากสุกี้อย่าง ‘น่องไก่ไดมารู’ หรือที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็น ‘น่องไก่เรือนเพชร’ หรือแม้แต่ ‘ออส่วนกระทะร้อน’ และ ‘ผัดโหงวก๊วย’ ก็ยังคงเป็นเมนูขายดีที่หลายๆ คนประทับใจ