ผ่าปัจจัยบวกสร้างโอกาสดันไทยก้าวขึ้นศูนย์กลางผู้จัดงานเฟสติวัลระดับโลก
เรียกได้ว่าฟ้านี่คือฟ้าหลังฝนของอุตสาหกรรมอีเวนต์ในประเทศไทย เมื่ออุตสาหกรรมไมซ์ส่งสัญญาณฟื้นตัวจากแรงหนุนของสารพัดปัจจัยบวกที่กระแทกเข้าอย่างจัง หลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายมานานหลายปีตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด–19 อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ TCEB ที่ระบุว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 อุตสาหกรรมสามารถสร้างรายได้รวมมากถึง 36,550 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 99.30 อีกทั้งรายได้รวมของอุตสาหกรรมไมซ์จากนักเดินทางต่างประเทศเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ยังขยับขึ้นจาก 9,395 ล้านบาท มาอยู่ที่ 20,793 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 121.32 ในแง่ของจำนวนนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศยังขยายตัวร้อยละ 160.22 หรือขึ้นมาเป็น 379,946 คน
โดยคุณวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ผู้บริหาร Woody World ชายผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมอีเวนต์มาเป็นเวลาหลายสิบปี ก็มองตรงกันว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงสำหรับการจัดงานเฟสติวัล เพราะคนไทยคือเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ อีกทั้งประเทศไทยยังมีการละเล่น หรือวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานมากมาย เพียงแต่ต้องจับจุดพลิกแพลงให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมทำให้เกิด IP เป็นของตัวเองให้ได้
นอกจากนี้ ยังมองว่าการจัดงานเฟสติวัลด้านสุขภาพ (Wellness) คือโอกาสสำคัญที่จะทำให้ไทยกระตุกเม็ดเงินเข้าประเทศได้มหาศาล เพราะไทยเปรียบเสมือนศูนย์กลางของนวัตกรรมในด้านการดูแลรักษา เพียงแต่ต้องก้าวข้ามข้อจำกัด รวมทั้งตีโจทย์ความเป็น Wellness ที่มากกว่าการดูแลสุขภาพของคนสูงอายุออกให้ได้ คู่ไปกับการวางแผนเป้าหมายและกรอบการทำงานระยะยาวที่ชัดเจน สร้างซอฟต์พาวเวอร์ผ่านตัวบุคคลเสมือนกับเป็นตัวแทนประเทศเข้าไปฝังตัวอยู่ในประเทศอื่นๆ เพื่อเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย และดันประเทศไทยขึ้นสู่การเป็นผู้จัดงานเฟสติวัลระดับโลก
