‘ยังแฮปปี้พลัส’ คอมมูนิตี้แพลตฟอร์มปั้นความสนุก เติมเต็มคุณค่า และสร้างรายได้ให้ผู้สูงวัย
สังคมมักสร้างกฎเกณฑ์ที่มองไม่เห็น เพื่อจำกัดศักยภาพในการดำเนินชีวิต โดย 60 คือตัวเลขอายุที่บ่งบอกว่าเรากำลังเข้าสู่การเป็นผู้สูงวัย กลุ่มคนที่จำต้องเกษียณตัวเองออกจากงาน เข้าวาระแห่งการวางมือ และใช้เวลาไปกับการพักผ่อนในช่วงบั้นปลาย แต่รู้ไหมว่าผู้สูงอายุหลายคนยังอยากที่จะทำกิจกรรม อยากที่จะสร้างรายได้ เพื่อคงคุณค่าของการมีชีวิต และ ‘ยังแฮปปี้’ ก็เป็นอีกองค์กรที่มองเห็นความรู้สึกเล็กๆ ตรงนั้น จึงสร้างสรรค์โมเดล ‘ยังแฮปปี้พลัส’ เพื่อเติมเต็มความฝันเหล่านั้น ไปพร้อมกับตอกย้ำภาพของการเป็นธุรกิจเพื่อสังคมให้สมบูรณ์
‘ยังแฮปปี้พลัส’ คือคอมมูนิตี้แพลตฟอร์มที่ให้ผู้สูงอายุเข้ามาเล่น เข้ามาหาข้อมูล และเข้ามาคุยกันได้ในพื้นที่ปลอดภัย โดยคุณแนน – วริศรา กลีบบัว CEO ยังแฮปปี้พลัส เล่าว่าผู้สูงอายุสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
สีเขียว: แอคทีฟ กลุ่มที่มีความคล่องแคล่ว
สีเหลือง: ติดบ้าน กลุ่มที่ติดบ้าน
สีแดง: ติดเตียง กลุ่มที่ติดเตียง
(ขอขอบคุณรูปภาพจากยังแฮปปี้พลัส)
และ 95% ของประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มสีเขียว หรือมีภาวะแข็งแรง แต่สังคมมักตีกรอบความเป็นผู้สูงอายุผ่านร่างกายและตัวเลขอายุ พร้อมจำกัดกิจกรรมทางสังคม เพียงเพราะกังวลเรื่องสุขภาพ โดยอาจหลงลืมไปว่า ‘ไม่มีใครอยากเป็นภาระของใคร’ แฮปปี้พลัส จึงเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ลุกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมผู้สูงวัยภายใต้มิชชัน ‘สร้างความสนุก มีคุณค่า พึ่งพาตัวเองได้’ ผ่านกิจกรรมรอบด้าน ที่ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มคุณค่า เพราะยังเป็นตัวกลางผลักดันให้ผู้สูงอายุมีรายได้ ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมฝึกอบรมทุกมิติ เพื่อนำ Asset หรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้และไม่ได้ มาเทิร์นเป็น Income หรือรายได้ต่อไป อาทิ โครงการ “House to Homestay เปลี่ยนบ้าน สร้างรายได้” ที่ได้รับความร่วมมือจาก สสส. และมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ จัดอบรมเพื่อเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโฮมเสตย์ หรือแม้แต่การสอนให้ผู้สูงอายุสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์หารายได้ผ่าน Affiliate Marketing เป็นต้น
(ขอขอบคุณรูปภาพจากยังแฮปปี้พลัส)
ปัจจุบัน ‘ยังแฮปปี้พลัส’ ปรับโมเดลธุรกิจไปเป็น B2B2C ให้บริการทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ อาทิ อีเวนต์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ การจัดอบรม การประชาสัมพันธ์ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ไปจนถึงการจำหน่ายสินค้า โดยมีสมาชิกในแพลตฟอร์มถึง 10,000 คน
เมื่อสมาชิกในแพลตฟอร์มแตะ 50,000 คน เป้าหมายถัดไปจะถูกขับเคลื่อน โดยคุณแนนวางแผนที่จะขยายแพลตฟอร์มให้เติบโต พร้อมรองรับทุกภาษาของชาติอาเซียน
