“รัฐบาลอนุทิน” รื้อใหม่โครงการ”คนละครึ่ง” ปรับเพิ่มเป็น “คนละครึ่ง พลัส” หวังกระตุ้นใช้จ่าย ดึงกำลังซื้อเข้าระบบเศรษฐกิจด่วนๆ เตรียมตัวเลย เปิดลงทะเบียน 20 ต.ค.68 นี้ 

หลังจากรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ นายนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐบมนตรีคนที่ 32 ของไทย ได้แถลงนโยบายต่รัฐสภาไปเป็นที่เรียบร้ยแล้ว โดยได้กำหนดนโยบายสำคัญที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ 5 ด้าน  โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลยืนยัน ได้แแก่ 

1.สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน 

2.แก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง บนพื้นฐานความเสี่ยงที่เป็นธรรม ระหว่างสถาบันการเงินและผู้กู้ 

3.เพิ่มโอกาสการออมของประชาชนรายย่อย 

4.ฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การปราบปรามการฉ้อโกงและการหลอกลวงนักท่องเที่ยว การจัดทำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568

5.เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า โดยจัดตั้งทีมไทยแลนด์ ดูแลและสนับสนุนผู้ประกอบการ และสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและเอื้อต่อการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต 

ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาบอนุทิน เลือกที่จะนำมาปัดฝุ่น ในนโยบาย Quick Win ช่วง 4 เดืนหลังจากนี้ นั่นก็คื มาตรการ”คนละครึ่ง” ซึ่งได้ปรับเป็น “คนละครึ่ง พลัส”  ซึ่งนายกรัฐบมนตรี บอกว่าได้กันงบประมาณ ปี 69 เพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้ไว้แล้ว เพื่อเร่งขับเคลื่อน และกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนในรายละเอียด คาดว่าในสัปดาห์หน้า หลักการจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสามารถให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ลงทะเบียนได้ไม่เกินกลางเดือนต.ค.นี้  

<เปิดลงทะเบียน คนละครึ่งพลัส 20 ต.ค.2568 นี้> 

ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำโครงการคนละครึ่งเข้า ครม.วันที่ 7 ตุลาคมนี้ ภายใต้กรอบวงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และงบกลาง 1.9 หมื่นล้านบาท

โครงการนี้มีเป้าหมายเข้าถึงประชาชน 20 ล้านคน หากเป็นประชาชนที่อยู่ในระบบภาษี จะได้รับคนละ 2,400 บาท ขณะที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับคนละ 2,000 บาท และจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 20-26 ตุลาคม

<อัปเดตคุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิ คนละครึ่งพลัส>

 นายเอกนิติ บอกว่า โครงการคนละครึ่งพลัส นั้น จะคล้ายเดิม คือประชาชนไปซื้อของ รัฐบาลออกให้ครึ่งหนึ่ง เดิมวันละ 150 บาท แต่เนื่องจากทุกวันนี้ เศรษฐกิจแย่มาก รัฐบาลจึงตัดสินใจว่าจะใช้ 200 บาท คือ รัฐบาลสมทบ 200 บาท ประชาชนมี 200 บาท สำหรับสิทธิที่ต่างจากเดิม ช่วงอายุผู้เข้าร่วมโครงการเริ่มตั้งแต่อายุ 16 ปี (เดิม 18 ปี) โดยให้ร้านค้าเล็กๆ SME เล็กๆ เข้าร่วมได้ด้วย 

โดยคุณสมบัติ “คนละครึ่ง 2568” มีดังนี้

1.อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (จากเดิมอายุ 18 ปี)

2.ต้องมีสัญชาติไทย

3.ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

<ลงทะเบียนวันไหน>

– ร้านค้า เริ่มเปิดลงทะเบียน 15 ตุลาคม 2568 

โดยเอาระบบเดิมมาใช้ ส่วนร้านที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบก็เปิดให้เข้าด้วย ประกอบด้วย

1. ร้านอาหาร-เครื่องดื่มทั่วไป

2. ผู้ประกอบการบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ

3. บริการขนส่งสาธารณะ อาทิ แท็กซี่ รถรับจ้าง ที่มีใบขับขี่รถสาธารณะ ผู้ประกอบการบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ

– ประชาชนทั่วไป เริ่มลงทะเบียน 20-26 ตุลาคม 2568

ซึ่ง ประชาชน 20 ล้านสิทธิ ลงทะเบียนผ่าน “เป๋าตัง” จะเป็นระบบมีอยู่แล้ว โดยต้องทำเร็ว ทำทันที ใครเคยลงทะเบียนแล้ว สามารถยืนยันสิทธิได้เลย เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว ใครยังไม่มีก็มาลงทะเบียนใหม่ 

-เริ่มเปิดให้ใช้จ่าย “คนละครึ่งพลัส” 29 ตุลาคม 2568 

สามารถเริ่มใช้จ่าย “คนละครึ่งพลัส” ได้ทันที จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 แต่หากใช้ไม่ถึง 200 บาท สามารถสะสมได้

< “คนละครึ่งพลัส” แบ่งผู้รับสิทธเป็น 3 กลุ่ม> 

ในเงื่อนไข “คนละครึ่งพลัส” นี้ รัฐบาลได้แบ่งสิทธิผู้ร่วมโครงการเป็น 3 กลุ่ม คือ 

กลุ่มที่ 1 : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม 1,700 บาทต่อเดือน รวมกับเงินเดิม 300 บาท ทำให้ได้รับรวม 2,000 บาทต่อเดือนในงวดเดียว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

กลุ่มที่ 2 : ผู้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน (ยื่นแบบภาษี) จะได้รับสิทธิพิเศษในโครงการคนละครึ่ง ที่ปรับเปลี่ยนจาก 50:50 เป็น 60:40 โดยรัฐบาลจะสมทบ 2,400 บาท และประชาชนเติมเงินอีก 2,000 บาท สามารถจับจ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท

กลุ่มที่ 3 : ผู้อยู่นอกระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน จะได้รับการเติมเงิน 2,000 บาท

<คนไม่มีสมาร์ทโฟนทำไง?>

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงข้อสงสัย สำหรับประชาชนที่ไม่มี “สมาร์ทโฟน” จะทำอย่างไร รวมถึงผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ห่างไกล จะเข้าถึงสิทธิคนละครึ่งพลัสได้หรือไม่ นั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า คนไม่มีสมาร์ทโฟน ออกแบบโดยคำนึงถึงเรื่องนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 13.4 ล้านคน ซึ่งการออกแบบคนละครึ่งพลัสจะทำควบคู่กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งปกติจะได้เงิน 300 บาทต่อเดือนเพื่อไปซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น เพียง 2-3 วันเงินก็จะหมด เราจึงของบประมาณที่เหลือจากปีที่แล้ว 

ซึ่งนายกรัฐมนตรีกรุณาอนุมัติให้วันสุดท้ายของปี 2568 (30 กันยายน) ที่เราประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทันที ไปเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากได้ 300 บาท เราเติมไปอีก 1,700 บาท รวมกันเป็น 2,000 บาท คนกลุ่มนี้เราจะเติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่ง 2,000 บาท สิทธิจะเท่ากับคนละครึ่งพอดี

อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่งพลัส หรือ คนละครึ่ง 2568 ตามนโยบาย “รัฐบาลคุณอนุทิน” ได้นำมาปัดฝุ่นใหม่ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่สนว่าจะเป็นนโยบายเก่าจากรัฐบาลใดก็ตาม แต่ขณะนี้ยังต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม BTimes จะนำข้อมูลมาบอกให้ทราบกันต่อไปอย่างแน่นอน …..

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles