การเมืองไทยมาไวไปไวยิ่งกว่าไฮเปอร์คาร์ เพียงไม่กี่วันสถานการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปหลายเหตุการณ์จนไม่น่าเชื่อ เพราะทันทีที่ “นายเศรษฐา ทวีสิน” หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีการแต่งตั้ง “นายพิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยมติ 5–4 เสียง เนื่องจากมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวมถึงฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็กลายเป็น ครม.รักษาการไปด้วย ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ต่อมาเพียง 1–2 วัน ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ได้ลงมติเสนอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” ชิงเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 จากที่มีข่าวออกมาตอนแรกว่าจะเสนอเป็น “นายชัยเกษม นิติสิริ” แต่ด้วยความเห็นที่ว่า “อุ๊งอิ๊ง” เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ มากกว่า เพราะเป็นหัวหน้าพรรค เป็นคนรุ่นใหม่ และที่ผ่านมามีการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนสร้างฐานเสียงคนรุ่นใหม่ อีกนัยก็เพื่อเตรียมรับมือกับการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มี “พรรคประชาชน” เป็นคู่แข่งสำคัญ ซึ่งด้าน “นายชัยเกษม” ยังมีปัญหาสุขภาพ และมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติบางประการด้วย ดังนั้น “อุ๊งอิ๊ง” จึงต้องรับหน้าที่นี้ไป
จนในวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลการเลือกนายกฯ คนที่ 31 ปรากฏว่าเสียงเห็นชอบให้ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนน 319 ต่อ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง จากที่จำนวนผู้เข้าประชุมทั้งหมด 489 คน ถือว่าผ่านฉลุย แบบไม่มีอะไรกั้น ดังนั้นจึงทำให้ประเทศไทยต้องจารึกประวัติศาสตร์ให้ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่มีอายุน้อยที่สุดของไทย คืออายุเพียง 37 ปี กำลังจะย่างเข้าสู่ 38 ปีเต็ม ในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ เป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของไทย และเป็นนายกฯ คนที่ 4 ของเครือญาติตระกูลชินวัตร ต่อจาก ทักษิณ ชินวัตร, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย
<ประวัติคร่าวๆ นายกฯคนที่ 31 >
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อ 21 สิงหาคม 2529 เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (ณ ป้อมเพชร) มีพี่สองคนคือนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา คุณากรวงศ์
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และศึกษาต่อที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงจบการศึกษาในระดับมัธยนศึกษาปีที่ 6 ส่วนระดับอุดมศึกษา ปริญญาโท Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ และปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปัจจุบันได้สมรสกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ โดยมีบุตรด้วยกัน 2 คน
นางสาวแพทองธาร เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์
<หุ้นไทยเด้งรับ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง”>
หลังจากผลโหวตนายกฯ คนที่ 31 ในสภาออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ปรากฎว่าตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นทันที จากที่ซึมๆ กลับเคลื่อนไหวมาในแดนบวก โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมนั้น ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศที่เริ่มคลี่คลายลง เนื่องจากการเลือกนายกฯ คนใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ถือว่ามีการฟื้นตัวได้โดดเด่น อย่างไรก็ตามวยสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังไม่นิ่ง และยังต้องติดตามโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้ด้วย
ซึ่งหุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น มีทั้ง กลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวเด่นหลังจากราคาปรับลงแรงเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่อาจถูกยกเลิกหลังนายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกฯ แต่เมื่อมีมติให้ นางสาวแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกฯคนใหม่ ทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัว โดยตลาดมองว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา
<จับตานโยบายเรือธง “ดิจิทัลวอลเล็ต”>
นอกเหนือจากการเป็นทายาททางการเมืองจากตระกูลชินวัตรแล้ว สิ่งที่น่าจับตาก็คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ที่ยังลุ้นจะแท้งหรือคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย เพราะเปรียบเสมือนไพ่ใบสุดท้ายของพรรคที่หวังจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ และโกยความนิยมจากประชาชนกลับมาให้ได้ โดยตามไทม์ไลน์เดิม เส้นตายแจกเงินเข้ากระเป๋าประชาชนคือภายในสิ้นปีนี้นั้น หลายคนต่างก็ลุ้นว่าจะเป็นไปได้หรือไม่
นอกจากนโยบายเรือธงแจกเงินดิจิทัล 10,000 แล้ว ยังมีโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น โครงการลงทุนแลนด์บริดจ์ โครงการขายคอนโด 75% ต่างชาติอยู่นาน 99 ปี นโยบายตั้งบ่อนคาสิโน ที่ได้เริ่มไปแล้วบ้างในยุคของ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ดูจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดนัก ก็ถือเป็นอีกหลายโจทย์ที่ “แพทองธาร” จะต้องแบกต่อหรือจะพอแค่ไหน หรือจะปรับนโยบายไปในทิศทางใดเพื่อให้โครงการลงทุนเดินหน้าต่อไปได้
<หอการค้าขานรับนายกฯ ใหม่ ไม่ติดอายุน้อย >
ฟากฝั่งเอกชน อย่างนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า การที่ “แพทองธาร ชินวัตร” ได้รับการโหวตขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สภาฯ สามารถมีมติเห็นชอบนายกรัฐมนตรีอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศไม่เกิดสุญญากาศ ส่วนนี้ทำให้เรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว
ส่วนเรื่องที่มีนายกฯ หญิงที่อายุน้อยนั้น นายสนั่นมองว่าขึ้นอยู่ที่การแสดงความเป็นผู้นำและการบริหารราชการแผ่นดินหลังจากนี้ และเชื่อว่าพรรคเองมีความพร้อมด้านบุคคลกรที่มีความรู้ความสามารถในทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนอยากเห็นการทำงานเป็นทีมกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น ก็จะทำให้การทำงานของ ครม. ชุดใหม่ มีเอกภาพและเสถียรภาพ
อีกทั้งหอการค้าไทย ต้องการให้รัฐบาลเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะสั้น รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งค่ามากเกินไป ซึ่งจะเอื้อต่อภาคการส่งออก การสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตต่อเนื่อง ตลอดจนรักษาโมเมนตัมภาคการท่องเที่ยวไว้ต่อไป รวมถึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ทั้งมาตรการเยียวยา กระตุ้นเศรษฐกิจ ปกป้องและช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากสินค้านำเข้าที่ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีน อีกทั้งการผลักดัน Soft Power ที่ไทยมีความได้เปรียบและสามารถที่จะต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจได้
<รอรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ วันอาทิตย์นี้>
มีรายงานว่าในวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะอัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่อาคารวอยซ์ สเปซ โดยจะมี สส.พรรคเพื่อไทย และตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ต่อจากนี้ไป “นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร” จะต้องพิสูจน์ความสามารถในการกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ท้าทายฝีมือ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้องตามวลีเด็ดที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะช่วยประชาชนให้ ‘มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปพร้อมๆกัน’ ได้จริงหรือไม่?…