เคยเป็นไหม เวลานึกถึงวันวานอันหอมหวานในอดีต ก็เกิดความคิดอยากจะให้สินค้าหรือบริการเหล่านั้นวนกลับมาในวันที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง หรือแม้แต่เวลาฟังเรื่องเล่าในอดีตของคนรอบตัว ก็ทำให้มีสักห้วงความคิดที่อยากจะได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นบ้าง นั่นหละคือการอธิบายความหมายของคำว่า Nostalgia ได้ดีที่สุด
ปัจจุบัน Nostalgia ถูกนำมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อใช้โปรโมทสินค้าหรือบริการ โดยนำเอาความทรงจำและความผูกพันในอดีตของผู้บริโภคมาเชื่อมโยงกับแบรนด์ ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างเป็นเจ้าทามาก็อต เครื่องเล่นเกมสัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่เปิดตัวครั้งแรกและรุ่นแรกช่วงปี 1966 ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะขยายอิทธิพลความสนุกไปยังต่างประเทศในปี 1967 ข้อมูลจากเว็บไซต์ ukiyo-journal.com ได้บอกเล่าวิวัฒนาการสุดทึ่งไว้ว่าในปี 2004 ทามาก็อตถูกอีโวลต์ขึ้นไปอีกเลเวลให้เกิดปฏิสัมพันธ์ข้ามเครื่องระหว่างกันได้ด้วยการใส่รังสีอินฟราเรดเข้าไป ผ่านไปอีกหลายปีก็ได้มีการขยายการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาจอสี มาพร้อมทัชสกรีน จากการปรับลูกเล่มให้มีความทันสมัยช่วยให้กระแสความนิยมของทามาก็อตไม่เคยจางหาย กระทั่งในช่วงเดือนสิงหาคม 2025 ยอดขายทามาก็อตก็ทะลุ 100 ล้านเครื่องได้สำเร็จ
นอกจากนี้กลยุทธ์ Nostalgia ยังถูกนำมาใช้กับภาคส่วนอื่นๆ เช่น การท่องเที่ยว ที่จัดกิจกรรมย้อนยุค ชวนคนไทยและชาวต่างชาติแต่งกายย้อนยุคเดินชมและเก็บภาพบรรยากาศตามสถานที่สำคัญต่างๆ หรือแม้แต่การนำเอารถจักรไอนํ้าที่ยังสามารถใช้งานได้ มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ผู้คนเข้าร่วมกิจกรรมย้อนเส้นทางประวัติศาสตร์ในวันหยุดสำคัญของประเทศไทย
หรือแม้แต่การที่หลายๆ ร้านอาหารเก่าแก่ระดับตำนานต่างหยิบยกเมนูดังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นมาปัดฝุ่นวางจำหน่ายให้ลูกค้าได้พาครอบครัวมาซึมซับบรรยากาศวันวานร่วมกัน
ทั้งหมดนี้ ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดยุคใหม่ที่นอกเหนือจากจะช่วยสร้างการรับรู้ เพิ่มยอดขาย ยอดเข้าร่วมกิจกรรมได้ดีแล้ว ยังเป็นตัวเชื่อมความรู้สึกร่วมสมัยของคนแต่ละเจนได้เป็นอย่างดี
