ดัชนี SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,302.35 จุด ปรับขึ้น 11.63 จุด หรือ +0.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 51,176.38 ล้านบาท จากแรงซื้อกลุ่มแบงก์ พลังงาน และช่วงบ่ายดีดขึ้นแรงหลัง มีข่าวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไขก๊อกลาออก ลดความเสี่ยงต่อรัฐบาลจากข้อครหาเกี่ยวข้องสแกมเมอร์กัมพูชา โดยดัชนีดีดขึ้นก่อนทะยานแรงช่วง โดยทำจุดสูงสุด 1,311.24 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,287.29 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,262.72 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,253.20 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,612.67 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี จากแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์ผลประกอบการดีกว่าคาด และกลุ่มพลังงานฟื้นตัวจากราคาน้ำมันเด้งขึ้นหลังยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อีกทั้งอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐระบุว่าอากาศจะหนาวขึ้นเป็นตัวเร่งดีมานด์น้ำมัน ประกอบกับ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปยังน่านน้ำญี่ปุ่นหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้นด้วย
ช่วงบ่ายดัชนี SET ปรับตัวขึ้นแรงหลังจากนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังลดแรงกดดันของความเสี่ยงต่อรัฐบาล จากข้อกล่าวหาที่เป็นหนึ่งใน 7 นักการเมืองที่เชื่อมโยงขบวนการสแกมเมอร์
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาด ดัชนีลดช่วงบวกลงมาเพราะวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) เป็นวันหยุดปิยมหาราช และวันศุกร์ก็คาบเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ปกติ มองแนวโน้มตลาดหุ้นในวันศุกร์ (24 ต.ค.) คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ ให้แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,310 จุด
