นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาตร์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนมิถุนายน พบว่า ส่งออกมีมูลค่า 24,769.6 ล้านดอลลาร์ ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 24,578.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินดุล 218 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยหลักที่ทำให้การส่งออกเดือนมิถุนายนกลับลดลง เนื่องจากสินค้าผลไม้เข้าสู่ช่วงท้ายฤดูกาล จึงมีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ใสขณะที่สถานะการดุลการค้าไทยเกินดุลต่อเนื่อง 2 เดือน ด้านสถานการณ์การค้าโลกมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้วการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าเข้มข้นมากขึ้น
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกไทยมีมูลค่ารวม 145,290 ล้านดอลลาร์ ยังคงขยายตัว 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 150,532.6 ล้านดอลลาร์ ยังคงขยายตัว 3% สำหรับดุลการค้า 6 เดือนแรกของไทยในปี 2567 พบว่าขาดดุล 5,242.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาตร์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกในปี 2567 คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย จากปัจจัยบวกจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร และการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่สนับสนุนความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดลดลง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ สงครามกลางเมืองในหลายประเทศ ปัญหาค่าระวางเรือที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจของคู่ค้าบางประเทศฟื้นตัวได้ค่อนข้างล่าช้า รวมถึงการเลือกตั้งในหลายประเทศสร้างความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอท่าทีนโยบายของรัฐบาลใหม่