สำนักข่าวบีบีซี นิวส์ สกาย นิวส์ และเอพีรายงานว่า หลังผ่านพ้นไปราว 3 ชั่วโมงกว่าผ่านมา กระทรวงกลาโหม รัสเซีย รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นกว่า 2 รายที่โรงงานมิราทอร์ก ซึ่งหนึ่งในโรงงานที่ผลิตเนื้อรายใหญ่ของประเทศรัสเซีย สาเหตุจากเศษซากโรงงานพังลงมาทับเสียชีวิตจากการใช้โดนนติดขีปนาวุธของยูเครน ส่วนผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็นกว่า 20 ราย จาก การตรวจสอบข้อมูลการโจมตีด้วยโจนครั้งใหญ่ในรอบสามปีของกองทัพยูเครนพบว่ายูเครนยิงโดรนติดขีปนาวุธมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 337 ชุด ประกอบด้วย 91 ชุดยิงไปยังกรุงมอสโก และ 126 ชุด ยิงไปยังภูมิภาคเคิร์ซ (Kursk) รัสเซีย โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า กองทัพรัสเซียสามารถทำลายโดรนติดขีปนาวุธได้ทั้งหมด
วันนี้ 11 มีนาคม 2025 เมื่อเวลา 14.00 น. โดยประมาณตามเวลาไทย กองทัพยูเครนเปิดปฏิบัติการโดติดขีปนาวุธโจมตีประเทศรัสเซียนับเป็นการใช้ปฏิบัติการโจมตีโดยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปีโดยพุ่งเป้าหมายไปที่กรุงมอสโกเมืองหลวงของประเทศรัสเซียและในอีก 10 ภูมิภาคของประเทศรัสเซียเบื้องต้นมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหนึ่งรายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ขณะที่กองทัพประเทศรัสเซีย รายงานว่าได้ใช้อาวุธและระบบป้องกันทางอากาศยิงสกัดโดรนติดขีปนาวุธของกองทัพยูเครน ส่งผลให้สามารถทำลายโดรนจำนวน 337 ชุดบริเวณนางฟ้าเหนือภูมิภาคเคิร์ซ (Kursk) รัสเซีย และยิงสกัดพร้อมกับทำลายโดนขีปนาวุธจำนวน 91 ชุดเหนือน่านฟ้าบริเวณภูมิภาคมอสโก รัสเซีย
สำนักข่าวทาสส์ (Tass) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาลประเทศรัสเซีย รายงานว่าจากการตรวจสอบความเสียหายในการโจมตีครั้งนี้ พบว่ามีตึกอพาร์ทเม้นท์จำนวน 7 ตึก และรถยนต์ของประชาชนทั่วไปจำนวนมากได้รับความเสียหาย รัฐบาลรัสเซียประกาศจำกัดและยกเลิกเที่ยวบินเข้าและออกในหกสนามบินสำคัญ รวมถึงประกาศยกเลิกการให้บริการเดินขบวนรถไฟเป็นการชั่วคราว
นายเซอร์กี้ ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกประเทศรัสเซียกล่าวอ้างว่ากองกำลังทหารสามารถยิงสกัดกันและทำลายโดนติดขีปนาวุธของยูเครนจำนวน 70 ชุด ซึ่งตรวจสอบพบว่าตั้งเป้าหมายในการทำลายมายังกรุงมอสโกประเทศรัสเซีย
ทั้งนี้ในวันที่ 11 มีนาคม 2025 เป็นวันแรกของการเริ่มต้นการเจรจาสร้างสันติภาพระหว่างผู้นำสูงสุดของประเทศยูเครน และประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้คือประเทศซาอุดิอาระเบีย