กองทุนประกันความเสี่ยงแห่ขายหุ้นสหรัฐมากสุดในรอบ 2 ปีกว่า ใกล้เคียงช่วงขายหุ้นปี 2020 เริ่มต้นเกิดโรคโควิด-19

กองทุนประกันความเสี่ยงแห่ขาย หุ้น สหรัฐ มากสุดในรอบ 2 ปีกว่า ใกล้เคียงช่วงขายหุ้นปี 2020 เริ่มต้นเกิดโรคโควิด-19

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา กองทุนประกันความเสี่ยง หรือ Hedge Fund ในสหรัฐอเมริกา ขายหุ้นออกจากพอร์ตการลงทุนทำสถิติขายออกมากที่สุดในรอบ 2 ปีกว่า เพื่อลดการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่เต็มไปด้วยผลกระทบมากมายจากปัจจัยความเสี่ยง และความไม่แน่นอนสูงจากการดำเนินนโยบายการค้าระหว่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สำคัญ ในรายการทำธุรกรรมขายหุ้นยังพบว่ามีขนาดและมูลค่าขายออกมาก ซึ่งใกล้เคียงกับในช่วงเริ่มต้นการระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020 ด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่าการเทขายหุ้นจำนวนมากมายของกองทุนประกันความเสี่ยง หรือ Hedge Fund อยู่ในปัจจุบันที่มีการกู้ยืมเงินมาซื้อลงทุนหุ้นสูงถึง 2.9 เท่าเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีของกองทุนเฮ็ดจ์ฟันด์ ซึ่งทำสถิติการกู้ยืมเงินมากที่สุดในช่วง 5 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 หรือตั้งแต่ช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นในปีเดียวกัน

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยต่อไปว่านักลงทุนประเภทสถาบันการเงินมีการคาดการณ์ว่าจะมีกองทุนประกันความเสี่ยง หรือ Hedge Fund ที่จะขายหุ้นออกจากพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้อีก

ทั้งนี้ในคืนผ่านมา 10 มีนาคม 2025 ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,911 จุด -890 จุด หรือ -2.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,614 จุด -155 จุด หรือ -2.69% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,468 จุด -727 จุด หรือ -4.00% ไม่เพียงส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดหลุด 18,000 จุดครั้งแรกตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่ยังทำสถิติดำดิ่งใน 1 วันที่เลวร้ายสุดในรอบ 2 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่กันยายน 2022 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวดำดิ่งเกินกว่า -10% เมื่อเทียบกับสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction

สอดรับกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำสถิติดำดิ่งรุนแรงนับตั้งแต่ต้นปีนี้ นอกจากนี้ มูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนในดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เสียหายมากถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 136 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ดัชนีหุ้นดังกล่าวทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 กุมภพันธ์ 2025 จนถึงในคืนผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เกือบดำดิ่ง -10% กำลังจะเข้าสู่ภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles