วันนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) นำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ถือหน่วย หลังจากเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนได้รับการตอบรับดีมาก นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อกว่า 2 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้าซื้อราว 1.3 แสนล้านบาท รวมเม็ดเงินที่ระดมทุนได้ 1.5 แสนล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) เปิดเผยว่า กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง เตรียมจะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในงวด 3 เดือน คือตั้งแต่วันจดทะเบียน 30 ก.ย. 67 ถึงสิ้น ธ.ค. 67 และคาดว่าจะรับเงินปันผลได้ในช่วงเดือน ก.พ. 68 ให้กับผู้ถือหน่วยประเภท ก. คาดว่าจะจ่ายเงินปัผลไม่ต่ำกว่า 3%
สำหรับกองทุน VAYU1 ระบุในหนังสือชี้ชวนจะมีการจ่ายปันผล 3-9% ต่อปี ตลอดระยะเวลาอายุการถือหน่วยลงทุน 10 ปี โดยจะจ่ายเงินปันผล 2 ครั้ง/ปี ซึ่งปีหน้าจะเริ่มจ่ายเป็นรอบ 6 เดือน (มิ.ย. และ ธ.ค.) หากปีไหนที่มีผลตอบแทนเกิน 9% ต่อปี ส่วนที่เกิน 9% จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.
โดยกองทุนฯ ได้เริ่มทยอยลงทุนแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ซึ่งพิจารณาจากทั้งปัจจัยพื้นฐาน ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแล เป็นสำคัญ รวมถึง Value ของบริษัทนั้นๆ ด้วย ภายใต้นโยบายการลงทุนผสม โดยลงทุน SET50 TRI สัดส่วน 50% พันธบัตรรัฐบาล 40% และหุ้นกู้เอกชน ที่มีเครดิตเราติ้ง A ขึ้นไป
นางชวินดา มองว่าภาวะตลาดหุ้นไทยมีขึ้นมีลง เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่เป็นเม็ดเงินใหม่จะเป็น Buffer ยามเมื่อตลาดปรับตัวลง ซึ่งตลาดหุ้นไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ยังมีการท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต ปลายปีนี้มอง SET Index ที่ 1,470 จุด และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังเติบโตได้ในระยะยาว เห็นได้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทยอยออกมา “ตลาดตอบรับปัจจัยทั้งภายในภายนอก sentiment อยู่ในทางที่ดีขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนมาช่วยสนับสนุน ปัจจัยภายใน การเมืองนิ่ง ทิศทางเศรษฐกิจไปได้ ท่องเที่ยวก็เข้ามา
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังได้วางแนวทางการระดมทุนผ่านหน่วยลงทุนประเภท ก. ของ VAYU1 เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์ตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน และการนำหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเชื่อมั่นว่ากองทุนฯ จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ โดยในช่วง 1 เดือนบรรยากาศการลงทุนหุ้นไทยดีขึ้นสอดรับกับวัตถุประสงค์ของกองทุนจากก่อนหน้าตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนมาก ทำให้การลงทุนลดลงอย่างมาก ความไม่มั่นใจในตลาดลดลง ทั้งนี้ก.คลังพร้อมให้การสนับสนุนและสร้งความเชื่อมั่นที่จะให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น