นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เห็นชอบ การทดลองออกสลากตัวเลขสามหลัก ทดสอบการจำหน่ายจริงในระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) เปิดให้พนักงาน สำนักงานสลากซื้อขาย ตั้งแต่วันที่ 2 เดือนตุลาคม 2567 จากนั้น 17 ต.ค. จะเปิดให้ประชาชนเริ่มซื้อขายเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ทุกวัน เปิดขายใบละ 20 บาท/งวด จำนวน 2 ล้านใบ/งวด มูลค่าการทดลองประมาณ 40 ล้านบาทต่องวด โดยได้คัดเลือกตัวแทนจุดขายสลาก 80 บาทจากทั่วประเทศ 900 ราย คัดเลือกมาร่วมทดลอง 400 คน ตัวแทนจะได้รับค่าเช่าแผงในการร่วมขาย เพราะเป็นการทดลองขายผ่านจุดจำหน่าย 80 บาท เพื่อนำประเมินผลการทดสอบ จากนั้นจะสรรหาตัวแทนจำหน่ายจริง โดยเน้นตัวแทนรายเดิมที่ร่วมขายสลากดิจิทัลเป็นหลัก และการทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เห็นชอบเช่นเดียวกัน เพื่อทดลองไม่ให้กระทบต่อสลากดิจิทัลในแอปเป๋าตัง
สำหรับวิธีการซื้อ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น
พ.ท. หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การออกสลากตัวเลขสามหลัก ต้องการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายเกินราคา ขณะเดียวกันยังเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้จำหน่ายสลากไม่ต้องมีความเสี่ยง ในการรับสลากไปแล้วจำหน่ายไม่หมด สามารถขายได้ทุกหมายเลข เพื่อนำเงินจากห้วยใต้ดิน 1-3 แสนล้านบาท ขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น หลังจากเริ่มขายสลากดิจิทัล ราคา 80 บาท นับว่าสลากดิจิทัลได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันมียอดจำหน่ายสูงสุด 24 ล้านฉบับ และเพิ่มระหว่างงวดอีก 2 ล้านฉบับ จากจุดเริ่มต้นที่ 5 ล้านฉบับ ในปี 2565
สำนักงานสลากฯ กำหนดสลากตัวเลขสามหลักรายการละ 20 บาท ผู้ซื้อ สามารถซื้อได้ทุกหมายเลขตั้งแต่ 000-999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการซื้อ สำหรับวิธีการจำหน่าย เป็นรูปแบบดิจิทัล กำหนดสัดส่วนยอดจำหน่าย 60% เป็นเงินรางวัล, ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร
โดยกำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ใช้วิธีอ้างอิงผลรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัล สามตรง มาจาก เลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลสองตรง มาจากผลการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ซึ่งการซื้อทุกๆ 1 รายการจะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข มีโอกาสรับรางวัล 4 ประเภทรางวัล คือ รางวัลสามตรง, รางวัลสามสลับหลัก, รางวัลสองตรง และรางวัลพิเศษ จะสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษจากสลากที่ถูกรางวัลสามตรง โดยจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และหากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัลจะสมทบเงินรางวัลในงวดถัดไปเพียง 1 งวด หากงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัล เงินรางวัลดังกล่าวจะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ สามตรง, สามสลับหลัก, สองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้นๆ จากนั้นเริ่มออกรางวัลจริงในงวดแรก 16 เมษายน 2568 โดย เริ่มจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้ตั้งแต่ 2 เมษายน 2568 เป็นต้นไป กำหนดเพดานเบื้องต้น 10 ล้านรายการ หากได้รับความสนใจจำนวนมากจะเสนอบอร์ดสลากฯเพิ่ม 5 แสนรายการถึง 1 ล้านรายการ เพื่อไม่ให้กระทบสลากดิจิทัล 6 หลักแบบเดิม คาดว่าเมื่อเริ่มซื้อขายจริงจะมียอดขาย 200 ล้านบาทต่องวด