นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ก.ค.2567 มีมูลค่าการค้ารวม 158,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แยกเป็นการส่งออก 87,089 ล้านบาท เพิ่ม 15.5% และการนำเข้า 71,011 ล้านบาท เพิ่ม 30.2% โดยไทยได้ดุลการค้า 16,078 ล้านบาท ทำให้การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในช่วง 7 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่าการค้ารวม 1,070,384 ล้านบาท เพิ่ม 5.9% เป็นการส่งออก 621,405 ล้านบาท เพิ่ม 4.7% และการนำเข้า 448,979 ล้านบาท เพิ่ม 7.7% โดยไทยได้ดุลการค้า 172,427 ล้านบาท
ทั้งนี้ การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือน ก.ค.2567 มีมูลค่าการค้ารวม 82,748 ล้านบาท เพิ่ม 14.4% เป็นการส่งออก 50,631 ล้านบาท เพิ่ม 12.2% การนำเข้า 32,117 ล้านบาท เพิ่ม 18.0% ได้ดุลการค้า 18,514 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 30,228 ล้านบาท เพิ่ม 32.9% รองลงมา คือ สปป.ลาว 21,941 ล้านบาท เพิ่ม 12.3% เมียนมา 15,721 ล้านบาท ลด 14.0% และกัมพูชา 14,859 ล้านบาท เพิ่ม 26.2%
สินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,870 ล้านบาท ส่วนประกอบเครื่องโทรสารและโทรศัพท์ 2,099 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,464 ล้านบาท ส่งผลให้ 7 เดือนแรกของปี 2567 การค้าชายแดนมีมูลค่าการค้ารวม 576,218 ล้านบาท เพิ่ม 4.2% เป็นการส่งออก 356,083 ล้านบาท เพิ่ม 2.86% การนำเข้า 220,136 ล้านบาท เพิ่ม 6.4% และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 135,947 ล้านบาท โดยค้าขายกับ มาเลเซีย สูงสุด ตามด้วย สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา
ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 มีมูลค่าการค้ารวม 75,353 ล้านบาท เพิ่ม 30.7% เป็นการส่งออก 36,459 ล้านบาท และการนำเข้า 38,894 ล้านบาท โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 43,734 ล้านบาท เพิ่ม 24.6% รองลงมาคือ สิงคโปร์มูลค่า 8,515 ล้านบาท เพิ่ม 9.8% และเวียดนาม มีมูลค่า 7,470 ล้านบาท เพิ่ม 31.1%
ทั้งนี้การส่งออกชายแดนและผ่านแดนขยายตัวในทุกหมวดสินค้า ทั้งสินค้าเกษตรกรรม เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 24.6% สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำมันปาล์ม เพิ่ม 4.4% สินค้าอุตสาหกรรม เช่น ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ และแล็ปท็อป เพิ่ม 15.9% และสินค้าพลังงาน เช่น น้ำมันดีเซล และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ เพิ่ม 3.4%
“ การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว และกัมพูชา ที่ยังมีอยู่สูง รวมถึงความต้องการยางพาราในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นทำให้การส่งออกสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เช่น น้ำยางข้น ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และไม้ยางพาราแปรรูป ขยายตัวสูงในตลาดมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้”นายรณรงค์ กล่าว
