นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษาคณะทำงานการกำกับแก้ไขหนี้สินภาคประชาชนรายย่อย เปิดเผยว่า เตรียมจะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนทั้งหมดให้นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะครอบคลุมหนี้เกือบทุกประเภท ทั้งหนี้นอกระบบ, หนี้ข้าราชการ, หนี้สินเชื่อเช่าซื้อ, หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล, หนี้ SME, หนี้ที่อยู่อาศัย และหนี้เกษตรกรรายย่อย โดยก่อนหน้านี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 10 คณะ เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาหนี้แต่ละประเภทในเชิงลึก
ทั้งนี้ คณะทำงานฯ เห็นว่าควรมีการทบทวนเงื่อนไขบางประการของโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อให้สามารถครอบคลุม เข้าถึง และดูแลลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ (ลิสซิ่ง) ซึ่งยอมรับว่ามีข้อเสนอให้ยกเลิกการคิดอัตราดอกเบี้ยธุรกิจเช่าซื้อ แบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate) และปรับไปใช้อัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับปัจจุบันมากขึ้น ในลักษณะแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ดี และเตรียมจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาด้วย
โดยธุรกิจลีสซิ่ง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ซึ่งมีมูลหนี้ไม่ได้สูงมาก และผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าหนี้ ก็มีทั้งสถาบันการเงิน บริษัทลูกของสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการอิสระ ที่อาจจะไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. แต่ถือว่าเป็นเจ้าหนี้เหมือนกัน และลูกหนี้อยู่ในภาวะลำบาก และที่ผ่านมา หนี้กลุ่มนี้ไม่ได้ถูกแก้ไขจริงจัง เช่น บางรายผ่อน 5 ปี เป็นลูกหนี้ดีมาตลอด 3 ปี แต่จากเศรษฐกิจขรุขระ ส่งผลให้ความสามารถในการหารายได้ลดลง อาจขาดส่ง 3 งวด ต้องถูกยึดรถทันที คำถามคือหนี้ชนิดอื่น มีกระบวนการไกล่เกลี่ย แต่เมื่อเป็นการคำนวณดอกเบี้ยแบบ Flat Rate การจะตั้งยอดเงินต้นใหม่เพื่อเริ่มชำระใหม่ ทำให้ไม่รู้ว่ายอดคงค้างที่ถูกต้องเป็นเท่าไร เพราะการคำนวณแบบ Flat Rate ได้นำดอกเบี้ยในอนาคตเข้าไปรวมไว้ด้วยแล้ว ฉะนั้นจะไปตั้งยอดหนี้คงค้างที่ยังผ่อนไม่ครบ ว่าเป็นเงินต้นก้อนใหม่ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ ก็ไม่ยุติธรรม จึงมองว่าตรงนี้ต้องมีการทำตารางการคำนวณขึ้นมาใหม่
นายกิตติรัตน์ ยังเชื่อว่า ธปท. จะอยู่ในวิสัยทัศน์ที่สามารถทำได้ ว่าหากต้องการปรับโครงสร้างตรงกลางสำหรับธุรกิจเช่าซื้อจะดำเนินการอย่างไร โดยมองว่าควรมีช่องทางสำหรับลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อที่เป็นผู้ผ่อนชำระดี และเมื่อถึงจุดหนึ่งไม่อยากผ่อนในอัตราสินเชื่อเช่าซื้อแบบเดิมแล้ว โดยปรับมาผ่อนรายเดือนแบบลดต้นลดดอกเบี้ย จะสามารถทำได้หรือไม่ ยอมรับว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับกับผู้ประกอบการจำนวนมาก แต่ก็เห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับตัว ถ้าไม่เริ่มคิดตั้งแต่วันนี้ ก็จะไม่มีทางได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าหนี้บางประเภทอาจใช้เวลานานเป็นปีในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการแก้ไขกฎหมาย เช่น หนี้ข้าราชการพลเรือน ในส่วนที่นอกเหนือจากข้าราชการทหาร ในสังกัดสภากลาโหม และข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งยังติดปัญหาเรื่องการถูกฟ้องล้มละลายจะต้องออกจากราชการ ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีความสามารถในการชำระคืนดังนั้น เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ การแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้ ว่าหากเป็นการถูกฟ้องล้มละลายโดยไม่ได้เกิดจากการทุจริต ไม่ต้องออกจากราชการ รวมถึงต้องมีการประสานกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงเจ้าหนี้ว่าอย่าฟ้องล้มละลายโดยไม่จำเป็น
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ออกบัตรเครดิต ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้นั้น เห็นว่าสถาบันการเงินดังกล่าว จะต้องมีการออกมาตรการในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในลักษณะเดียวกันกับโครงการคลินิกแก้หนี้ เนื่องจากมองว่าตรงนี้เป็นสิทธิ์ของลูกหนี้ที่ควรจะได้รับเหมือนกันทั้งหมด เป็นต้น