ทีซีดีซี (TCDC) เปิดเผยรายงานเจาะเทรนด์โลก 2025 ในหัวข้อ Beyond Imagination ทำให้เห็นกลุ่มคนแต่ละเจนเนอเรชั่นที่จะใช้ชีวิตในปี 2025 ขึ้นไป ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และสังคม โดยพูดถึงกลุ่มคนในเจนเนอเรชั่นมิลเลนเนียล (หรือคนรุ่นเจนวาย หรือรุ่นเดอะแบก) ซึ่งมีอายุระหว่าง 29-44 ปี หรือคนเกิดในช่วงระหว่างปี 1980-1995 พบว่า Tri-life Crisis หรือวิกฤตช่วงวัยสามสิบปี ภาวะกดดันคนที่มีอายุช่วงวัย 30 ปีขึ้นไป เกิดขึ้นทั้งในชายและหญิง ส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีอายุ 34-37 ปี โดยมีอาการเครียดเกี่ยวกับการงาน การผ่อนบ้าน การแต่งงานและมีลูก รวมถึงเป้าหมายในชีวิตที่ยากเกินจะทำให้สำเร็จภายในอายุ 30 ปีได้ งานวิจัยเผยว่าภาวะวิกฤตช่วงวัย 30 ปี เกิดขึ้นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึงครึ่งหนึ่ง
งานวิจัยจาก Stylist ทำการสำรวจผู้หญิงวัย 30 ปีขึ้นไป ว่าพวกเขาคาดหวังอะไรในช่วงชีวิตวัยนี้บ้าง พบว่า 22% อยากมีงานที่มั่นคง 69% หวังจะได้ที่ทำงานที่่ตนเองรัก มี 68% อยากมีคู่ หรือแต่งงาน 41% อยากมีบ้านเป็นของตนเอง และ 75% อยากมีสภาพคล่องและเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งจาก 75% มีเพียง 34% เท่านั้นที่สามารถทำตามความคาดหวังได้สำเร็จ
Morgan Stanley วิจัยอัตราการหย่าร้างไว้ว่า มิลเลนเนียล คือรุ่นที่่หย่าร้างมากที่่สุดเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันจึงทำให้เกิดประชากรคนโสดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และคาดว่าจะมีจำนวนคนโสดที่อายุ 25-44 ปีมากถึง 45% ภายในปี 2030 ขณะที่่ Forbes เผยว่าในปี 2024 มีจำนวนคู่รักครึ่งหนึ่งที่หย่าร้างจากการแต่งงานครั้งแรก อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้กลับไม่ยอมแพ้เรื่องความรัก และพร้อมจะแต่งงานครั้งใหม่ได้เร็วกว่า การตัดสินใจครั้งแรก ขณะที่คู่รักซึ่งมีลูกน้อย แม้เลิกกันจะกลับอยู่ด้วยกันต่อไปได้ หรือเปลี่ยนสถานะพาร์ทเนอร์ ที่ช่วยสนับสนุนเรื่องลูก
บางคู่เลิกกันแต่ไม่จดทะเบียนหย่า หรือแยกทาง เพราะการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการสร้างตัวหรือกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่นับเป็นเรื่องที่ยากลำบากไม่แพ้กัน ซึ่งเกิดขึ้นทั้งฝั่งอเมริกาและเอเชียในจีน จึงมีการออกกฏหมายให้เวลาตัดสินใจหย่าร้าง 30 วัน หลังยื่นคำขอร้องหย่า เพื่อตัดสินใจว่าการแยกทาง คือทางออกที่คู่ควรสำหรับเศรษฐกิจเช่นนี้หรือไม่ ทางฝั่งอเมริกามีจำนวนที่ปรึกษาด้านคู่รักเพิ่มขึ้น