คนละครึ่งเวอร์ชั่นใหม่ปรับสัดส่วน ผู้เสียภาษีจ่ายแค่ 40% ‘อนุทิน’ ยอมรับกระแสตอบรับดี เมินก็อบปี้นโยบาย แต่ฟังเสียงประชาชน งบประมาณพอ ทันในกรอบ 4 เดือน

คนละครึ่ง เวอร์ชั่นใหม่ปรับสัดส่วน ผู้เสียภาษีจ่ายแค่ 40% 'อนุทิน' ยอมรับกระแสตอบรับดี เมินก็อบปี้นโยบาย แต่ฟังเสียงประชาชน งบประมาณพอ ทันในกรอบ 4 เดือน

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการกระแสตอบรับโครงการคนละครึ่งว่า ยอมรับว่ากระแสดี เพราะฟังประชาชน ไม่ใช่คิดว่าจะทำแบบนี้จะก็อบปี้พรรคไหน ทำเพื่อประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์จะไปก๊อบปี้ใครก็จะทำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคก็ต้องเดินต่อไป แม้ว่าจะเกิดในรัฐบาลทักษิณ รวมถึงโครงการคนละครึ่งมาจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และตนเป็นรัฐมนตรีสมัยท่านตนก็ยกมือสนับสนุน

ขณะที่ กระแสข่าวคนละครึ่งจะเป็น 50 :50 หรือจะเป็นแบบพลัส นายอนุทิน ยอมรับว่าเมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา จากที่ได้คุยกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หากไม่กระทบวินัยการเงิน หรืองบประมาณ และช่วยเหลือประชาชนได้ แต่จะออกไปรูป 60 : 40 เพื่อจูงใจกลุ่มคนที่เสียภาษี คนส่วนใหญ่ก็เสียภาษีอยู่แล้ว แต่หากเป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เสียภาษี 50: 50 ถือเป็นไอเดียที่นายเอกนิติ เสนอ ก็เห็นด้วย และสั่งให้ไปพิจารณาเพิ่มเติม แต่ต้องไม่ผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย งบประมาณ และไม่เสียวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่าโครงการจะทันในกรอบ 4 เดือน และนายเอกนิติ ก็แจ้งมาว่างบประมาณมีดำเนินการ พร้อมเปรียบว่า กระเป๋าก็ยังมีเหมือนเดิม

ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทของรัฐบาลเพื่อไทย จะสานต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์แต่ต้องมาดูว่า บางโปรเจ็กต์ทำแล้วขาดทุน หรือต้องไปซื้อมาก็ไม่ได้ พร้อมย้ำว่าต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง และโครงการต้องอยู่รอดและพึ่งพาตัวเองได้

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค เปิดเผยภายหลังหารือกับภาคเอกชน ว่า วันนี้เป็นการหารือกันระหว่างสมาคมภัตตาคารอาหารแห่งประเทศไทย แพลตฟอร์ม วงใน ไลน์แมน แกร็บ มาพูดคุยกันเกี่ยวกับความเห็น “โครงการคนละครึ่ง” ภาคเอกชนมีความพร้อมมากที่อยากจะช่วยเหลือในโครงการนี้ ยินดีที่จะแชร์ข้อมูลร้านอาหารให้กับกระทรวงการคลัง ทำฐานข้อมูล หมายความว่าคนที่ใช้แพลตฟอร์มอยู่แล้วอาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ภาคเอกชนเสนอวงเงิน 200 บาทต่อวัน จากเดิมที่โครงการคนละครึ่งให้ 150 บาทต่อวัน ได้รับข้อเสนอ

ส่วนข้อกังวลเรื่องการเก็บภาษีย้อนหลัง ที่ทางร้านค้ากังวลมากว่าเมื่อเข้าโครงการจะทำให้ต้องเสียภาษีย้อนหลัง นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า แนวคิดของนายอนุทินคือไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลัง และยังมีแนวคิดอีกว่า สิทธิประโยชน์สำหรับผู้อยู่ในระบบภาษีอาจมีเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งยังได้รับข่าวดีจากแพลตฟอร์มต่างๆ ว่าในช่วงที่ทำกิจกรรม อาจจะมีส่วนลดพิเศษในโครงการคนละครึ่งด้วย ซึ่งจะนำข้อเสนอของสมาคมต่างๆ เสนอต่อว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อทำการบ้านไว้ก่อนแล้วจะเริ่มต้นให้เร็วที่สุดหลังจากแถลงนโยบายรัฐบาล

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles