ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือบีไอเอส (Bank for International Settlements) ซึ่งสถาบันการเงินระหว่างประเทศมีบทบาทเป็นธนาคารของธนาคารกลาง และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ ช่วยบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ รวมถึงให้บริการทางการเงินแก่ธนาคารกลาง เปิดเผยว่า ในขณะนี้เกิดปรากฏการณ์ที่ภาวะราคาทองคำตลาดโลกและดัชนีหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์สำคัญของโลกปรับเพิ่มสูงขึ้นไซึ่งปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นอย่างน้อยในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับทั้งสองสินทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ และหุ้นมีภาวะฟองสบู่
ในขณะที่ดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สำคัญของโลกพุ่งทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และ บริษัทที่มีขนาดใหญ่โตในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สอดรับกับราคาทองคำในตลาดโลกที่พุ่งทะยานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมากกว่า 60% ทำให้กลายเป็นปีที่ให้ผลตอบแทนทองคำดีที่สุดในรอบ 46 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมานั้น ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามและถกเถียงกันมากว่าสินทรัพย์ที่เป็นตำนานแห่งความปลอดภัยเช่นทองคำกำลังเปลี่ยนแปลงบทบาทสำคัญดังกล่าว
นายฮุน ซอง-ชิน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและหัวหน้า แผนกเศรษฐกิจแลการเงิน ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือบีไอเอส เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีรูปแบบการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับภาวะการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตามภาวะปกติในอดีตที่ผ่านมา ปรากฎตการที่น่าสนใจของทองคำในเวลานี้ คือ ทองคำได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่เปรียบเสมือนกับสินทรัพย์เก็งกำไร
กำลังใกล้จะถึงสิ้นปี 2025 พบว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ราคาทองคำแท่งตลาดโลก และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก มีทิศทางหรือพฤติกรรมพุ่งกระฉูดคล้ายกับแรงระเบิดที่แตกกระจายออก ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างน้อยในช่วงกว่า 50 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาทองคำนั้น พบว่าไม่เพียงแค่เฉพาะในปี 2025 นี้ ที่ราคาทองคำพุ่งสูงมากมายถึงกว่า 60% แต่ราคาทองคำยังพุ่งกระฉูดมากถึง 150% นับตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งเป็นหลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงมากจนส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลก ในกระดาษที่มีปัจจัยเสริมอื่นๆได้แก่ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์เช่นรัสเซียบุกรุกดินแดนประเทศยูเครน และโลกตะวันตกใช้มาตรการความบาปด้านเศรษฐกิจและการเงินระดับรุนแรงมากต่อรัสเซีย
อีกหนึ่งสัญญาณที่ธนาคารบีไอเอสตั้งคำถามเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของสินทรัพย์ทั้งสองประเภทอยู่ที่นักลงทุนประเภทรายย่อยจำนวนมากมายเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว สะท้อนจากความต้องการอย่างมากมายของนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในกองทุนหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟ เป็นที่แน่นอนว่าความต้องการของธนาคารกลางทั่วโลกในการซื้อและถือครองทองคำเป็นเหตุผลที่หนักแน่นในการสนับสนุนราคาทองคำในตลาดโลก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธนาคารบีไอเอสเคยออกคำเตือนเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นฟองสบู่ แต่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสินทรัพย์ประเภททองคำในขณะนี้กับกลายเป็นว่ามีภาวะฟองสบู่สูงถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทหุ้น คำถามที่น่าสนใจจะเกิดขึ้นทันทีว่า ที่ไหนที่นักลงทุนจะมีความปลอดภัยถ้าหากสินทรัพย์ทั้งสองประเภทได้แก่หุ้นและทองคำเกิดภาวะตกต่ำอย่างรุนแรง และปรากฎตการดังกล่าวจะมีความหมายอย่างไรกับธนาคารกลางและ ผู้จัดการบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีการเข้าลงทุนและถือครองสะสมทองคำเป็นจำนวนมาก