ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ทั้ง 4 แห่ง ที่ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ออมสิน ธ.ก.ส. ธอส. และ ธอท. ที่ต้องการขยายเวลาปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ จากร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.125 ต่อปี ต้องมีมาตรการใหม่ที่สะท้อนว่า “เงินนำส่งกองทุนฯที่ลดลงนั้นได้นำไปช่วยเหลือลูกหนี้อย่างแท้จริง” โดยเฉพาะรายย่อยที่เป็นกลุ่มเปราะบาง กลุ่มฐานราก ลูกหนี้นอกระบบ โดยต้องมีมาตรการตามแนวทาง ดังนี้
1) ลดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราผ่อนปรนพิเศษให้แก่ลูกหนี้เป็นการทั่วไป เช่น ลดดอกเบี้ยลูกหนี้รายย่อยชั้นดี (MRR) ลดดอกเบี้ยลูกหนี้รายใหญ่ชั้นดี (MLR) เป็นต้น
2) นำเงินนำส่งกองทุนฯที่ลดลงไปดำเนินโครงการใหม่ ที่มีการชดเชยความเสียหายที่เกิดจาก NPLs หรือชดเชยความเสียหายเพิ่มเติมจากโครงการหรือมาตรการของรัฐที่ได้รับการชดเชยไปแล้ว
3) ลดอัตราดอกเบี้ยหรือเงินต้นตามสัญญา หรือ
4) เปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ที่ทำให้เงินต้นของลูกหนี้ปรับลดลงในทุกงวดที่ผ่อนชำระ
ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า การช่วยเหลือลูกหนี้จะต้องมากกว่าหรือเท่ากับเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ ที่ลดลง