ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเป็นเวลานาน และได้ฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ตามข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นสูงถึง 995,558 คน อย่างไรก็ตาม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้นักท่องเที่ยวไทยค้นพบทั่วประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือเมืองคารุอิซาวะ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยข้อมูลจากจังหวัด นากาโน่ระบุว่า ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเพียง 8,725 คน ที่ไปเยือนคารุอิซาวะ
คารุอิซาวะเป็นหนึ่งในรีสอร์ทบนที่สูงที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนที่ราบสูง 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ณ เชิงเขาอาซามะ (Mount Asama) สามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟชินคันเซ็น หรือ ‘รถไฟหัวกระสุน’ ใช้เวลาเพียง 70 นาที สถานที่แห่งนี้เป็นที่หลงใหลของผู้ที่ชื่นชอบทิวทัศน์ภูเขาตามธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว
คารุอิซาวะเริ่มได้รับความนิยมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อมิชชันนารีและนักการทูตประจำโตเกียวเลือกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อน ไม่นานหลังจากนั้น สถานที่แห่งนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นสูงญี่ปุ่น รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ด้วย คารุอิซาวะจึงกลายเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยม ที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อนในอากาศเย็นสบายเพื่อหลบร้อนจากโตเกียว นอกจากนี้ คารุอิซาวะยังมีลานสกีที่ยอดเยี่ยมและฤดูกอล์ฟที่ยาวนานไปจนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งได้รับความนิยมจากชนชั้นสูงของญี่ปุ่นเช่นกัน
คารุอิซาวะเป็นเมืองตากอากาศที่อุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ดึงดูดผู้คนในแวดวงศิลปะหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน ศิลปิน นักทำภาพยนตร์ และนักดนตรี ด้วยแกลเลอรี่ศิลปะและพิพิธภัณฑ์ที่น่าหลงใหล รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างแรงบันดาลใจมากมาย นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น Karuizawa Tourist Hall ที่มีโครงสร้างภายนอกเป็นไม้แบบคลาสสิก และ Alexander Croft Shaw Memorial Chapelที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1888 ซึ่งเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี
เคล็ดลับสำหรับการสัมผัสประสบการณ์ “สี่ฤดูกาลอันงดงาม” ในคารุอิซาวะ ต้องไม่พลาดทุกๆ ปี ในช่วงเดือนเมษายน ดอกซากุระจะเริ่มเบ่งบาน เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลานี้เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เก็บภาพความงามของดอกไม้ และถ่ายภาพเซลฟี่สวย ๆ ท่ามกลางทิวทัศน์อันน่าประทับใจ
ณ น้ำตกน้ำตกชิไรโตะ (Shiraito) นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นใบไม้เขียวขจีในฤดูใบไม้ผลิ สายลมเย็นสบายในฤดูร้อน หรือใบไม้เปลี่ยนสีสันสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ ทุกปีในเดือนธันวาคม คารุอิซาวะเปลี่ยนเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว หิมะนุ่มละมุนปกคลุมทั่วเมือง สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักสกีและนักสโนว์บอร์ด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ ให้เลือกสนุก เช่น ลานสเก็ตน้ำแข็งและลานเล่นเคอร์ลิง สำหรับผู้ที่ไม่เล่นสกี ก็สามารถขึ้นลิฟต์ชมวิวเพื่อดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาได้
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งที่ Sengataki-onsen และ Hoshino-onsen ได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่พิเศษและน่าประทับใจยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ภูเขาอาซามะมอบประสบการณ์ที่หลากหลายตลอดทั้งปี ด้วยทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล นักปีนเขาสามารถพิชิตยอดภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นแห่งนี้ ซึ่งมีความสูง 2,568เมตร ได้ในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว
สำหรับผู้รักกีฬา คารุอิซาวะมีกิจกรรมให้เลือกทำได้ตลอดทั้งปี ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง สามารถสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น ขี่ม้า เล่นกอล์ฟ ปั่นจักรยาน เล่นเทนนิส ว่ายน้ำ และเล่นโรลเลอร์เบลด ส่วนในฤดูหนาว สามารถลองเล่นกีฬาเคอร์ลิงที่สวนน้ำแข็งคารุอิซาวะ (Karuizawa Ice Park) ได้ นอกจากนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คารุอิซาวะเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่พลังงานของโลกไหลเวียนใกล้พื้นผิว ที่ศาลเจ้าคุมาโนะโคได (Kumanokoutai Jinja)นักท่องเที่ยวสามารถขอพรได้ โดยตำนานท้องถิ่นเชื่อว่าคำอธิษฐานจะสัมฤทธิ์ผลหากมาเยือนในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ ใกล้กับถนนอูซุอิเก่า (Old Usui Pass) มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุ 850 ปี ซึ่งมีความเชื่อว่าหากวิ่งรอบต้นไม้นี้ตามเข็มนาฬิกา คำอธิษฐานจะเป็นจริงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
คิว-คารุอิซาวะ กินซ่า (Kyu-Karuizawa Ginza) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการตลอดทั้งปี ตลอดเส้นทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าหลากหลาย ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ถนนสายนี้มีชื่อเสียงด้านอาหารรสเลิศมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทโซบะ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่น เช่น สาเกและเบียร์ ที่ผลิตโดยใช้น้ำจากน้ำพุธรรมชาติในพื้นที่
คาซูโตะ ซาโตะ หัวหน้าแผนกการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของคารุอิซาวะ กล่าวว่า “เราเข้าร่วมงาน JAPAN EXPO Thailand 2025 เพราะเล็งเห็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย คารุอิซาวะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ในญี่ปุ่นที่มอบประสบการณ์อันน่าประทับใจได้ตลอดทั้งปี ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์” จึงขอเชิญทุกท่านมาเยี่ยมชมบูธ E8 ของสำนักงานคารุอิซาวะในงาน JAPAN EXPO Thailand 2025และสัมผัสเสน่ห์ของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งนี้ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของปี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ