คาร์ฟูร์ ยักษ์เครือข่ายโมเดิร์นเทรดชื่อดังในประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ได้ประกาศยกเลิกการขยายสินค้าของบริษัทเป๊ปซี่โค (PepsiCo) ได้แก่ น้ำอัดลมยี่ห้อเป๊ปซี่ (Pepsi) และเซเว่นอัพ (7-up) ขนมกรอบขบเคี้ยวยี่ห้อเลย์ (Lay’s) ที่อยู่ใน 4 ประเทศของทวีปยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี เบลเยี่ยม และสเปน สาเหตุจากการปรับราคาขายของบริษัทต้นทาง คือ บริษัทเป๊ปซี่โคมีราคาสูงขึ้นมาก ส่งผลให้มีราคาขายปลีกแพงขึ้นมากอย่างชัดเจน
สำหรับนโยบายดังกล่าว คาร์ฟูร์จะดำเนินการมีผลทันทีตั้งแต่วันนี้ 5 มกราคมเป็นต้นไป ส่งผลให้ชั้นวางสินค้า ได้แก่ เป๊ปซี่ เซเว่น-อัพ และเลย์ จะไม่มีการวางขาย และสต็อกสินค้าทั้ง 3 แบรนด์นี้ในโมเดิร์นเทรดของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวอีกต่อไป ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถหาซื้อสินค้าทั้งเป๊ปซี่ เซเว่น-อัพ และเลย์ ได้ในมากกว่า 9,000 สาขาทั่ว 4 ประเทศในยุโรป
ไม่เพียงคาร์ฟูร์เท่านั้น ขณะนี้ ร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค เครือข่ายร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อในหลายประเทศของยุโรป เช่น เยอรมนี เบลเยี่ยม เป็นต้น ประกาศนโยบายหยุดสั่งซื้อสินค้าบริโภคจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าประเภทดังกล่าว สาเหตุจากต้นทุนสินค้าที่ปรับขึ้นสูงมาก กระทบราคาขายปลายทางกับร้านค้าและผู้บริโภค
ด้านบริษัทเป๊ปซี่โค เปิดเผยว่า ได้ใช้ความพยายามในการเจรจากับคาร์ฟูร์มาเป็นเวลานาน และเป๊ปซี่โคจะยังคงซื่อสัตย์ต่อไปในการสร้างความมั่นใจว่าสินค้าของเป๊ปซี่โคจะมีให้เลือกซื้อหาได้
ขณะที่ผู้บริโภค หรือประชาชนในฝรั่งเศส แสดงความเห็นสนับสนุนกับนโยบายของคาร์ฟูร์ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่สินค้ามีราคาแพงเกินสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ในคาร์ฟูร์ยังมีสินค้าอื่นๆให้เลือกซื้อหาอีกมาก ทำให้สามารถเลี่ยงซื้อสินค้าที่ปรับราคาขายแพงเกินไป อย่างเช่น ชีโตส เป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าของเป๊ปซี่มีราคาขายแพงไป
ทั้งนี้ ในปีผ่านไป บริษัทเป๊ปซี่โค (PepsiCo) ผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์ดัง เช่น น้ำอัดลมยี่ห้อเป๊ปซี่ (Pepsi) และเซเว่นอัพ (7-up) ขนมกรอบขบเคี้ยวยี่ห้อเลย์ (Lay’s) ได้แจ้งให้กับเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่ายว่าต้องปรับขึ้นราคาขายอย่างปานกลาง โดยมีผลในปี 2024
