นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท วันนี้ เปิดที่ระดับ 36.61 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.50-36.75 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.60-36.70 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นบ้างจากโซนแนวรับ ส่วนเงินดอลลาร์ก็แกว่งตัว sideways หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
เนื่องจากเข้าสู่ช่วงปลายเดือนทำให้เงินบาทยังสามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ชัดเจนท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์และบรรดาสกุลเงินต่างประเทศโดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPYTHB) จากบรรดาผู้เล่นในตลาด อย่างฝั่งผู้นำเข้า
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท เราประเมินว่า แม้เงินบาทจะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ทว่าการแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเงินดอลลาร์ก็ยังไม่กลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ เพราะแม้ตลาดจะเชื่อว่า เฟดอาจสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ทว่าเงินดอลลาร์ก็ยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลักอื่นๆ ตามปัจจัยเสี่ยงการเมืองและแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก (ECB, BOE และ BOJ)
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือน เงินบาทก็จะเริ่มเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์และบรรดาสกุลเงินต่างประเทศ จากฝั่งผู้นำเข้า ทำให้เรามองว่า เงินบาทก็อาจยังติดแถวโซนแนวรับ 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อน
ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง หากราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นเข้าใกล้แนวต้านระยะสั้น ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำ นอกจากนี้ บรรดานักลงทุนต่างชาติก็อาจชะลอแรงขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทย หลังดัชนี SET เริ่มส่งสัญญาณการกลับตัวที่ดีขึ้น ทำให้หากบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็อาจเริ่มกลับเข้าตลาดทุนไทยได้เช่นกัน