ค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าเล็กน้อย หลังประธานเฟดย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 36.80 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.86 บาทต่อดอลลาร์  โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.75-36.90 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯและประเมินกรอบ 36.60-37.00 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้างในลักษณะ sideways down (แกว่งตัวในช่วง 36.78-36.87 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลดลงเล็กน้อยของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ล่าสุด ที่แม้จะย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยจนกว่าเฟดจะมั่นใจว่าสามารถคุมเงินเฟ้อได้สำเร็จ แต่ก็มีการระบุว่า เฟดมีความคืบหน้ามากขึ้นในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย พร้อมกับระบุถึงความเสี่ยงในการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปและช้าเกินไป ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่าเฟดมีโอกาสราว 81% ที่จะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ การรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ (XAUUSD) สู่ระดับ 2,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา 

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาทเสี่ยงผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้น ท่ามกลางรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ และยอดการจ้างงานภาคเอกชน ที่อาจช่วยสะท้อนแนวโน้มของยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) วันศุกร์นี้ได้ นอกจากนี้ ปริมาณธุรกรรมในตลาดการเงินก็อาจเบาบางลง โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐฯ เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุด 4th of July โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด หรือสะท้อนภาพการชะลอลงของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงได้บ้าง ส่วนเงินบาทก็อาจแข็งค่าขึ้น พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ 

อย่างไรก็ดี ก่อนที่ตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น เรามองว่า ควรระวังความผันผวนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน อย่าง ดัชนี Caixin PMI ภาคการบริการ หลังเงินหยวนจีน (CNY) ได้ผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านระยะสั้น ทำให้ หากข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าทะลุแนวต้านระยะสั้น ซึ่งอาจส่งผลให้บรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียที่ภาพเศรษฐกิจมีการพึ่งพาเศรษฐกิจจีน ผันผวนอ่อนค่าลงตามได้ นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวัน เรามองว่า ความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เงินบาทอาจมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง หรือยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ ตราบใดที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสินทรัพย์ไทย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles